แปลแบบเข้าใจง่าย
New health standard หรือมาตรฐานประกันสุขภาพใหม่ มีการประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป มีกำหนดให้มีการบังคับใช้มาตรฐานประกันสุขภาพแบบอัพเดตใหม่เพื่อ
1. ปรับปรุงเนื้อหาของประกันให้สอดคล้องกับยุคสมัย และเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการแพทย์
2. ปรับปรุงเนื้อหาของประกันสุขภาพให้ตารางผลประโยชน์ของประกันสุขภาพจะหน้าตาเหมือนกันหมดในข้อมูลหลัก 13 หมวด สามารถนำตารางผลประโยชน์ของแต่ละเจ้ามาเทียบกันได้เลย
3. บริษัทประกันไม่สามารถปฏิเสธการต่ออายุได้ เว้นแต่ 3 กรณีนี้คือ:
3.1 กรณีมีหลักฐานว่าผู้เอาประกันภัย (ตัวเรา) ไม่แถลงข้อความจริงตามใบสมัคร (ใบคำขอเอาประกันภัย) หรือคำขอต่ออายุ ใบเเถลงสุขภาพ และข้อแถลงเพิ่มเติมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันสุขภาพ
3.2 ผู้เอาประกันภัย (ตัวเรา) ไปเคลมในส่วนของการรักษาโดยไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์
3.3 ผู้เอาประกันภัย (ตัวเรา) เรียกค่าชดเชยรายวันรวมกันทุกบริษัทเกินรายได้ที่แท้จริง
แต่ไม่ได้ให้บริษัทแบกค่ารักษาคนเดียว จะให้บริษัทฯเสนอแผนประกันแบบ co-pay จ่ายไม่เกิน 30% กับลูกค้าแทน เพื่อให้ลูกค้าได้ความคุ้มครองและบริษัทประกันลดความเสี่ยงของตัวเองด้วย วิน วิน กันไป
4. ถ้าเราตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ที่จะไม่บอกบริษัทประกันก่อนว่าเราเป็นโรคอะไรบ้าง แล้วบริษัทมารู้ทีหลังภายใน 2 ปีที่ทำประกัน บริษัทมีสิทธิ์บอกล้างสัญญาและคืนเบี้ยทั้งหมด แต่หากมารู้ภายหลังจากสองปีไปแล้ว ก็ถือเป็นการยกประโยชน์ให้ผู้เอาประกัน
5. มีข้อยกเว้นลดลงในส่วนของการรักษาจากการบาดเจ็บในหน้าที่ของอาชีพเสี่ยง เช่น ทหาร ตำรวจ นักบิน แอร์โฮสเตส เป็นต้น รวมถึงลดข้อยกเว้นอื่นๆ เช่นเรื่องความคุ้มครองการทะเลาะวิวาท ให้คุ้มครองครอบคลุมขึ้นนั่นเอง
1. ปรับปรุงเนื้อหาของประกันให้สอดคล้องกับยุคสมัย และเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการแพทย์
2. ปรับปรุงเนื้อหาของประกันสุขภาพให้ตารางผลประโยชน์ของประกันสุขภาพจะหน้าตาเหมือนกันหมดในข้อมูลหลัก 13 หมวด สามารถนำตารางผลประโยชน์ของแต่ละเจ้ามาเทียบกันได้เลย
3. บริษัทประกันไม่สามารถปฏิเสธการต่ออายุได้ เว้นแต่ 3 กรณีนี้คือ:
3.1 กรณีมีหลักฐานว่าผู้เอาประกันภัย (ตัวเรา) ไม่แถลงข้อความจริงตามใบสมัคร (ใบคำขอเอาประกันภัย) หรือคำขอต่ออายุ ใบเเถลงสุขภาพ และข้อแถลงเพิ่มเติมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันสุขภาพ
3.2 ผู้เอาประกันภัย (ตัวเรา) ไปเคลมในส่วนของการรักษาโดยไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์
3.3 ผู้เอาประกันภัย (ตัวเรา) เรียกค่าชดเชยรายวันรวมกันทุกบริษัทเกินรายได้ที่แท้จริง
แต่ไม่ได้ให้บริษัทแบกค่ารักษาคนเดียว จะให้บริษัทฯเสนอแผนประกันแบบ co-pay จ่ายไม่เกิน 30% กับลูกค้าแทน เพื่อให้ลูกค้าได้ความคุ้มครองและบริษัทประกันลดความเสี่ยงของตัวเองด้วย วิน วิน กันไป
4. ถ้าเราตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ที่จะไม่บอกบริษัทประกันก่อนว่าเราเป็นโรคอะไรบ้าง แล้วบริษัทมารู้ทีหลังภายใน 2 ปีที่ทำประกัน บริษัทมีสิทธิ์บอกล้างสัญญาและคืนเบี้ยทั้งหมด แต่หากมารู้ภายหลังจากสองปีไปแล้ว ก็ถือเป็นการยกประโยชน์ให้ผู้เอาประกัน
5. มีข้อยกเว้นลดลงในส่วนของการรักษาจากการบาดเจ็บในหน้าที่ของอาชีพเสี่ยง เช่น ทหาร ตำรวจ นักบิน แอร์โฮสเตส เป็นต้น รวมถึงลดข้อยกเว้นอื่นๆ เช่นเรื่องความคุ้มครองการทะเลาะวิวาท ให้คุ้มครองครอบคลุมขึ้นนั่นเอง
ปรับมาตรฐานประกันสุขภาพ ใครมีเฮ?
พี่เรนนี่สรุปมาให้แล้ว อ่านเลย! คลิก