รายละเอียดประกัน
จากที่พี่เรนนี่ได้รีวิวประกันสุขภาพไปหลายๆตัวแล้ว น้องๆก็น่าจะเริ่มคุ้นชินกับประเภทประกันสุขภาพเพิ่มเติม หรือประกันแพ็คเสริมประกันกลุ่ม หรือ ประกันแบบที่มี ค่าใช้จ่ายส่วนแรก (deductible) อันเป็นประกันแบบที่ช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัยได้อย่างมาก
แต่พี่เรนนี่ว่าประกันสุขภาพแพ็คเสริมประกันกลุ่มแบบนี้ค่อนข้างเข้าใจยาก เพราะจะงงตอนคำนวณจ่ายเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนแรกว่าต้องลบค่าใช้จ่ายส่วนแรกออกจากบิลที่แยกค่าห้องมั้ยยังไง ทำเอาหลายคนผิดหวัง หัวเสีย หวังไว้ว่าประกันต้องจ่ายเยอะกว่านี้ เสียอารมณ์ไปอีก อุตส่าห์ทำประกันแล้ว แทนที่จะสบายใจ
ล่าสุดมีตัวนึงออกใหม่เมื่อกลางปีนี้ พี่เรนนี่คิดว่าตอบโจทย์นี้มากๆ ตรงที่
- เป็นแบบเหมาจ่าย จ่ายทุกค่าใช้จ่าย IPD แต่ไม่มี OPD นะจ๊ะ
- ค่าห้องที่เริ่ดสุดๆ ไม่ต้องมา fix ว่าค่าห้อง 3,000 หรือ 5,000 นะ จ่ายค่าห้องแบบห้องเดี่ยวมาตรฐานของโรงพยาบาลนั้นๆ ให้เต็มจำนวนไปเลยจ้า จะรักษาที่ไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าค่าห้องจะพอมั้ย
- ไม่ต้องคำนวณอะไรให้ยาก ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ (deductible) สามารถหักออกจากบิลโรงพยาบาลได้เลย
- ราคาถูกอย่างเห็นได้ชัด สำหรับแบบที่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ (deductible) 100,000 บาท/ครั้ง คุ้มครอง 5 ล้าน เริ่มต้นแค่หลักพันจ้า มีใครให้น้อยกว่านี้อีกมั้ย?
ตัวนี้ตอบโจทย์ครบเรื่องการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) แต่พี่เรนนี่จะแนะนำเพิ่มนิดว่าถ้าประกันตัวแรกของน้องไม่คุ้มครองค่ารักษาอุบัติเหตุอยู่แล้ว ก็ให้ซื้อประกันอุบัติเหตุเบาๆ เบี้ยปีละพันกว่าๆ เพิ่มเอาไว้ด้วย เพราะถ้าเราเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น หกล้ม มือซ้น ขาแพลง จะใช้ตัว D Health Plus เบิกไม่ได้น้า ส่วนใครมองหาแบบมีคุ้มครองผู้ป่วยนอก (OPD) เพิ่มเติมจากประกันที่มีอยู่ อาจจะต้องข้าม D Health Plus ไปนะ ตัวนี้จะเน้นว่าถ้ามีเหตุให้แอดมิทโรงพยาบาล ยังไงๆก็ cover หมดแน่นอนมากกว่า
เงื่อนไขการรับประกัน
- รับประกันตั้งแต่อายุ 11-90 ปี ต่ออายุได้ถึง 98 ปี
- ต้องตรวจสุขภาพตามเงื่อนไขที่กำหนด
- จะไม่คุ้มครองโรคประจำตัว โรคเรื้อรัง หรือโรคร้ายแรงที่เป็นมาก่อนสมัครทำประกันภัย
จุดเด่น
- ให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) แบบเหมาจ่ายตามจริง สูงสุดถึง 5 ล้านบาท ต่อครั้งการรักษา ไม่จำกัดครั้งต่อปี
- แบบมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ (deductible) ทำให้ค่าเบี้ยถูกมากเริ่มต้นแค่ 3,338 บาท/ปี สำหรับผู้หญิงอายุ 30 ปี (ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำหมายถึงผู้ซื้อต้องออกเงินส่วนหนึ่งเอง แล้วบริษัทประกันจะจ่ายที่เหลือตามที่ตกลงไว้)
- จำนวนที่เบิกบริษัทได้ = เลขจากบิลโรงพยาบาล - จำนวนค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่เราเลือกไว้
- คุ้มครองค่าห้องแบบเหมาจ่าย สูงสุด 180 วัน, ICU สูงสุด 60 วัน, ค่ายากลับบ้านไม่เกิน 7 วัน และไม่เกิน 20,000 บาท
- วัยไหนก็สมัครได้ สมัครได้ตั้งแต่ 11-80 ปี และต่ออายุรายปีได้ถึงอายุ 98 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
- มีระยะเวลารอคอยเริ่มต้น 30 วัน และ 120 วันสำหรับโรคที่กำหนด
ความจริงที่ต้องรู้ไว้
- พี่เรนนี่ขอขยายความคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านต่อครั้งให้ชัดเจนนิดนึง
- กรณี 1 เป็นโรค A เข้ารักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ครั้งที่ 1 และ 2 ในโรคเดียวกัน ห่างกันไม่เกิน 90 วัน จะนับเป็นครั้งเดียวกันและยังคงใช้วงเงินเดิม
- กรณี 2 เป็นโรค A เข้ารักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ครั้งที่ 1 และ 2 ในโรคเดียวกัน ห่างกันเกิน 90 วัน จะสามารถนับเป็นครั้งที่สองและใช้วงเงินใหม่ได้
- กรณี 3 เป็นโรค A เข้ารักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ครั้งที่ 1 และ เข้ารักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) อีกครั้งด้วยโรคอื่น นอกเหนือจากโรค A ก็จะสามารถนับวงเงินใหม่ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะห่างจากการเข้าโรงพยาบาลครั้งก่อน
- คุ้มครองแค่ผู้ป่วยใน (IPD) จะไม่มีความคุ้มครองผู้ป่วยนอก (OPD) แบบที่ประกันเหมาจ่ายเค้ามีกัน เช่น ค่าล้างไต, ค่าคีโม, ค่าฉายแสง, ค่ารักษาอุบัติเหตุฉุกเฉิน, MRI, ค่าตรวจเลือด/แลป, ค่ากายภาพบำบัด, ค่าทันตแพทย์ เป็นต้น (ซึ่งความคุ้มครองพวกนี้น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เบี้ยแพงแหละ )
- ถ้าซื้อตัวนี้ ควรซื้อประกันอุบัติเหตุเบาๆ เบี้ยปีละพันกว่าๆ เพิ่มเอาไว้ด้วย
- เลือกจำนวนค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ (deductible) ให้น้อยกว่าหรือเท่ากับความคุ้มครองประกันกลุ่มบริษัท หรือ ความคุ้มครองของประกันตัวที่เรามีอยู่จะดีที่สุด
รีวิวจากรีวิวประกัน
รีวิวประกัน D-Health จากเมืองไทยประกันชีวิต โดยคุณบุกกี้
เรนนี่ : ทำไมถึงเลือก D-Health?
บุกกี้ : ตอนแรก เรามองหาประกันสุขภาพไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ยังเลือกไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าต้องซื้อทุนเท่าไหร่ให้พอดีกับตัวเอง เราเห็นในตลาดตอนนี้เล่นทุน 10 ล้าน 20 ล้าน 100 ล้าน คือเราต้องเป็นโรคอะไรหรอ เราถึงจะซื้อทุน 100 ล้าน ก็เลยไปคำนวนและอ่านพันทิปว่าถ้าเป็นโรคร้าย เป็นโรคที่คนอื่นเป็นกัน ต้องเสียค่ารักษาเท่าไหร่ คำนวนมาได้ประมาณไม่เกิน 2 ล้าน จึงอยากได้ทุนประมาณนี้และเบี้ยไม่แพง แต่หาไม่ได้เลย
กระทั่งได้มาเจอตัวแทน และเขาแนะนำตัว D-Health แผนที่แนะนำคือทุน 5 ล้าน เบี้ย 10,000 บาท จึงรีบตัดสินใจซื้อเลย ไม่คิดละ
เรนนี่ : อะไรคือจุดเด่นประกัน D-Health จาก MTL?
บุกกี้ : ตอนแรก เรามองหาประกันสุขภาพไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ยังเลือกไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าต้องซื้อทุนเท่าไหร่ให้พอดีกับตัวเอง เราเห็นในตลาดตอนนี้เล่นทุน 10 ล้าน 20 ล้าน 100 ล้าน คือเราต้องเป็นโรคอะไรหรอ เราถึงจะซื้อทุน 100 ล้าน ก็เลยไปคำนวนและอ่านพันทิปว่าถ้าเป็นโรคร้าย เป็นโรคที่คนอื่นเป็นกัน ต้องเสียค่ารักษาเท่าไหร่ คำนวนมาได้ประมาณไม่เกิน 2 ล้าน จึงอยากได้ทุนประมาณนี้และเบี้ยไม่แพง แต่หาไม่ได้เลย
กระทั่งได้มาเจอตัวแทน และเขาแนะนำตัว D-Health แผนที่แนะนำคือทุน 5 ล้าน เบี้ย 10,000 บาท จึงรีบตัดสินใจซื้อเลย ไม่คิดละ
เรนนี่ : อะไรคือค่าใช้จ่ายส่วนแรก ?
บุกกี้ : ค่าใช้จ่ายส่วนแรก = ดีดั๊ก (Deduct) ซึ่งหมายถึงถ้าไปซื้อแผนที่มี Deduct 30,000 บาท โดย 30,000 บาทแรกของบิลโรงพยาบาล D-Health ไม่จ่าย เราต้องเอาเงินตัวเองจ่าย แต่สมมุติถ้าเรามีประกันกลุ่มของบริษัทหรือประกันตัวอื่นๆ ก็ให้ประกันตัวจ่าย 30,000 บาทนั้น แล้ว D-health จะจ่าย 30,001 - 5,000,000 บาท เพราะฉนั้น Deduct 30,000 บาท ก็คือการจ่ายก่อน 30,000 บาท
เรนนี่ : มีอะไรที่ D-health ยังไม่ตอบโจทย์ ?
บุกกี้ : อืมมม จริงๆ ก็มีนะ D-Health ไป Focus หลักๆ เลยที่ IPD คือถ้านอนโรงพยาบาลคุ้มครองหมด แต่สิ่งที่ไม่มีคือ OPD อันนี้เป็นประกันแบบเหมาระดับนึงใช่มั้ยคะ ซึ่งค่า OPD ปกติจะมีล้างไต, รักษาด้วยรังสี, อุบัติเหตุ 24 ชั่วโมง ซึ่ง D-Health ตัดออกไป ตรงนี้ก็เลยทำให้เบี้ยถูกลง
เรนนี่ : ประกัน D-Health เหมาะกับใคร ?
บุกกี้ : เหมาะกับคนที่ซื้อประกันสุขภาพเป็นกรมธรรม์ที่ 2 ขึ้นไป คืออาจมีประกันกลุ่มหรือประกันสุขภาพอยู่ประมาณนึงละ แต่ว่าทุนไม่เยอะ ตอนนั้นอาจซื้อไว้ 2-3 แสน แล้วอยากจะซื้อเพิ่ม เพราะตัวนี้เด่นตรงที่มีแผนที่มีค่าใช้จ่ายส่วนแรกหลายแผน ตั้งแต่ 30,000, 50,000, 100,000 ซึ่งถ้าเราไปซื้อตัวที่มีค่าใช้จ่ายส่วนแรก 100,000 เบี้ยจะถูกมาก สมมุติอายุเรา 31 ปี จะเหลือแค่ 3,000 บาท แต่ความคุ้มครอง 5 ล้านบาท แล้วทำไมจะไม่ซื้อหล่ะ
เรนนี่ : D-Health เต็ม 10 ให้กี่คะแนนดี ?
บุกกี้ : 8/10 ละกัน เพราะเราคิดว่ามันยังไม่จบในตัวเอง ในความเห็นของเรานะ ถ้ามันแบบ Complete กลมๆ หรือให้คุ้มครองทุกอย่าง ควรที่จะมีอบัติเหตุด้วย OPD นิดหน่อย เพราะฉนั้น ก็ให้ 8 ก่อน อีกอย่าง เรายังไม่เคยเคลม เลยยังไม่รู้ว่าเคลมยังไง
สรุปคะแนน 8/10 คะแนน
จุดเด่น
- ชอบค่าห้อง
- IPD คุ้มครองเยอะดี
- มี Deduct ให้เลือก ทำให้ราคาถูก
จุดด้อย
- อยากให้มี OPD
- ยังไม่เคยเคลม ไม่รู้ว่าเคลมง่ายมั้ย