ออมเงินรักษา vs ซื้อประกันสุขภาพ เลือกอะไรดี ?
“การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ !” พี่เรนนี่เชื่อว่าสุขภาพจัดว่าเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ในความคิดของน้อง ๆ หลายคนอย่างแน่นอน ดังนั้นการวางแผนรักษาสุขภาพทุกวันจึงสำคัญ บางคนก็ออมเงินไว้เพื่อไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลในอนาคต บางคนก็ทำประกันเพื่อลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล วันนี้พี่เรนนี่เลยอยากบอกต่อการวางแผนด้านสุขภาพ ออมเงินรักษา vs ซื้อประกันสุขภาพ อย่างไหนดีกว่ากัน ไปดูกันเลย
ข้อดี ออมเงิน vs ประกันสุขภาพ เพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล
3 ข้อดีของการออมเงิน
-
จัดการเงินเองได้ ควบคุมจำนวนเงิน รวมถึงจัดการเงินของตัวเองให้ยืดหยุ่นได้ จะใช้ จะเก็บตอนไหนก็ได้ ตามระเบียบจัดการของตัวเอง
- ปรับเปลี่ยนเองได้ เก็บเงินตามจำนวนที่เราต้องการปรับเปลี่ยนเองได้ตลอดเวลา
- จับต้องได้ แน่นอนว่าเงินที่เราเก็บไว้เองก็รู้สึกปลอดภัย มีเงินติดตัวอยู่ในบัญชีออนไลน์ก็ง่าย ๆ
2 ข้อเสียของการออมเงิน
- เงินเฟ้อ อย่างที่รู้กันว่าเงินเฟ้อเกิดขึ้นทุกวินาที ผ่านไปไม่นานราคาสินค้าย่อมเพิ่มขึ้น และเงินมีค่าน้อยลงตามกาลเวลา
- เงินไม่พอใช้ ไม่พอใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลที่มีค่ารักษาบางอย่างแพง
3 ข้อดีของประกันสุขภาพ
- แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แม้ว่าการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการจ่ายทิ้งในแต่ละปี แต่เมื่อใดที่เราจำเป็นต้องใช้ประกันสุขภาพเคลมค่ารักษาใช้จ่ายพยาบาลที่มีราคาแพงมาก เราก็สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล
- ดูแลค่ารักษาพยาบาล ยามเจ็บป่วย ก็ยังมีประกันสุขภาพครอบคลุมทั้ง IPD/ OPD ค่าทำฟัน และอีกมากมาย ซึ่งช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ที่กำหนด
- เงินชดเชย บางกรมธรรม์ที่เราทำสัญญาแล้วก็มีให้เงินชดเชยเช่นกันเมื่อเราเจ็บป่วย เช่น เงินชดเชยรายได้เป็นรายวัน เป็นต้น
3 ข้อเสียของประกันสุขภาพ
- จ่ายเงินทิ้ง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การทำประกันสุขภาพส่วนใหญ่เป็นแบบจ่ายทิ้ง ก็คือจะเสียค่าเบี้ยรายปีเลย โดยที่ไม่ได้คืนเงิน
- ค่าเบี้ยประกันราคาสูง บอกเลยว่าค่าเบี้ยประกันสุขภาพหลาย ๆ กรมธรรม์มีราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสิทธิความคุ้มครองดูแล ว่ามีมากน้อยขนาดไหน ค่าเบี้ยประกันรายปีมีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น
- การตรวจสุขภาพ ก่อนทำประกันจำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อน เพื่อให้ประกันทราบว่าเราสามารถทำกรมธรรม์แบบไหนได้บ้าง เนื่องจากการทำประกันนั้นมีเงื่อนไขเกี่ยวกับสุขภาพหลายอย่าง เช่น ประกันจะไม่คุ้มครองโรคที่เราเป็นมาก่อนอยู่แล้ว อย่างโรคประจำตัว โรคเรื้อรังต่าง ๆ เป็นต้น
ดังนั้นการทำประกันสุขภาพ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญหากเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย โรคที่เรายังไม่รู้ตัว หรือ เกิดอุบัติเหตุ ก็ยังมีประกันสุขภาพทำไว้แล้วอุ่นใจ เป็นตัวช่วยยามฉุกเฉิน พี่เรนนี่ขอแนะนำประกันสุขภาพ
D Health Plus (ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ)
ประกันเหมาจ่ายตัวนี้พี่เรนนี่ว่าตอบโจทย์ใครหลายๆ คนที่อยากได้ประกันแบบเหมาๆ แต่ไม่อยากจ่ายแพง จะคุ้มครองยังไง ไปดูกัน
- เป็นแบบเหมาจ่าย จ่ายทุกค่าใช้จ่าย IPD แต่ไม่มี OPD นะจ๊ะ
- ค่าห้องที่เริ่ดสุดๆ ไม่ต้องมา fix ว่าค่าห้อง 3,000 หรือ 5,000 นะ จ่ายค่าห้องแบบห้องเดี่ยวมาตรฐานของโรงพยาบาลนั้นๆ ให้เต็มจำนวนไปเลยจ้า จะรักษาที่ไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าค่าห้องจะพอมั้ย
- ราคาดีงามแม้ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ คุ้มครองได้ 1 ล้าน วัยสามสิบเบี้ยไม่ถึง 30,000 บาท เฉลยกันไปเลยว่าชื่อประกัน D Health Plus จากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายสูงสุดถึง 1 ล้านบาทต่อครั้งเลยทีเดียว ไม่ใช่ต่อปีนะจ๊ะ
เงื่อนไขการรับประกัน
- รับประกันตั้งแต่อายุ 11-90 ปี ต่ออายุได้ถึง 98 ปี
- ต้องตรวจสุขภาพตามเงื่อนไขที่กำหนด
- จะไม่คุ้มครองโรคประจำตัว โรคเรื้อรัง หรือโรคร้ายแรงที่เป็นมาก่อนสมัครทำประกันภัย
จุดเด่น
- ให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) แบบเหมาจ่ายตามจริง สูงสุดถึง 1 ล้านบาท ต่อครั้งการรักษา ไม่จำกัดครั้งต่อปี
- คุ้มครองค่าห้องแบบเหมาจ่าย สูงสุด 180 วัน, ICU สูงสุด 60 วัน, ค่ายากลับบ้านไม่เกิน 7 วัน และไม่เกิน 20,000 บาท
- วัยไหนก็สมัครได้ สมัครได้ตั้งแต่ 11-90 ปี และต่ออายุรายปีได้ถึงอายุ 98 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
- มีระยะเวลารอคอยเริ่มต้น 30 วัน และ 120 วันสำหรับโรคที่กำหนด
โปรดีๆ พี่เรนนี่ขอบอกต่อ!
สำหรับใครที่สนใจแบบประกัน D Health เบาใจ หรือ แบบประกัน D Health เบาตังค์ Plus
รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ*
ต่อที่ 1 ค่าเบี้ยทุก 1,000 บาท รับ Voucher 200 บาท สูงสุด 5,000 บาท
ต่อที่ 2 รับ On-top voucher มูลค่า 1,000 บาท (เฉพาะลูกค้าเอไอเอส เท่านั้น)
กดรับโปรโมชั่น ที่ v-avenue.co คลิก