เคล็ดลับ “ลดหย่อนภาษี” ด้วยประกันดียังไง

ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลลดหย่อนภาษีสิ้นปี 2565 เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพี่เรนนี่เพิ่งให้การบ้านน้อง ๆ ไป Check List กันมาก่อนว่าตัวเรามีสิทธิลดหย่อนภาษีรายการใดบ้าง สำหรับครั้งนี้พี่เรนนี่จะมารีวิวว่าประกันอะไร รูปแบบไหนสามารถลดหย่อนภาษีได้บ้าง ลดหย่อนยังไงให้คุ้มกับประกันที่ซื้อไป 

ประกันสามารถลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด 5 ประเภทหลัก นั้นคือ

• เงินประกันสังคม สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง

• เบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท

• เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท

• เบี้ยประกันสุขภาพ และเบี้ยประกันอุบัติเหตุ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 25,000 บาท

• เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท

พี่เรนนี่ขอพามาดูส่วนสำคัญของประกันที่ปกติมนุษย์เงินเดือนเราซื้อแล้วต้องจ่ายเป็นรายเดือน หรือรายปีกันก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น

• ประกันชีวิตทั่วไปและประกันชีวิตแบบบำนาญ
• ประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ

ประกันชีวิตประเภทไหนลดหย่อนภาษีได้บ้าง ?

1. ประกันชีวิตตลอดชีพ ให้ความคุ้มครองตลอดชีพ เป็นระยะเวลายาวนานตั้แต่อายุ 85, 90 หรือ 99 ปี ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในขณะที่กรมธรรม์คุ้มครองอยู่ ผู้รับประโยชน์จะได้ทุประกันแทน
2. ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา ให้ความคุ้มครองแบบเป็นระยะเวลา ซึ่งมีหลายแผนประกันตามกำหนดเวลาที่เราเลือก ตั้งแต่ 1 ปี - 20 ปี หรืออาจจะมากกว่านี้ เป็นต้น หากกรมธรรม์พ้นกำหนดเวลาการคุ้มครองก็จะไม่สามารถเอาสิทธิประกันได้ 
3. ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญา แต่ถ้าเราเสียชีวิตลงในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์
4. ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิต และเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
5. ประกันชีวิตบำนาญ บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ ให้แก่ผู้เอาประกันภัยทุกเดือนจนครบกำหนดสัญญา แต่ถ้าเราเสียชีวิตลงในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ของเราตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์

ตารางเปรียบเทียบประกันชีวิตทั่วไปและประกันชีวิตแบบบำนาญ

• สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง รวมกันได้ทั้งหมดสูงสุด 100,000 บาท
• คู่สมรส (ไม่มีเงินได้) ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท

• อายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป
• ทำประกันกับบริษัทประกันในประเทศไทย
• ได้รับเงินคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันรายปี
• ห้ามเวนคืนก่อนครบกำหนด

• อายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป
• ทำประกันกับบริษัทประกันในประเทศไทย
• ต้องจ่ายผลประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ ช่วงอายุการจ่าย 55 - 85 ปีหรือมากกว่านั้น
• ต้องจ่ายเบี้ยครบก่อนได้รับผลประโยชน์

ในส่วนถัดมาพี่เรนนี่ขอพาไปดูว่าประกันสุขภาพปบบไหนที่จะลดหย่อนภาษีได้บ้าง ซึ่งประกันสุขภาพพี่เรนนี่เชื่อว่ามนุษย์ออฟฟิศหลายคน คงต้องปักหมุดมาที่การลดหย่อนภาษีประกันสุขภาพอย่างแน่นอน

ประกันสุขภาพประเภทไหนลดหย่อนภาษีได้บ้าง ?

1. ประกันสุขภาพทั่วไป ที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเกิดจากการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ การชดเชยทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
2. ประกันภัยอุบัติเหตุ เฉพาะที่ให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาล ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก
3. ประกันภัยโรคร้ายแรง (Critical Illnesses)
4. ประกันภัยการดูแลระยะยาว (Long Term Care)

ประกันสุขภาพ สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมเบี้ยประกันสุขภาพเข้ากับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปต้องไม่เกิน 100,000 บาท ที่สำคัญเลย คือ ประกันสุขภาพโควิดก็นำมาลดหย่อนภาษีในส่วนนี้ได้เช่นกัน

แถมเสริม ! ประกันสุขภาพของพ่อแม่ ก็นำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะ สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี

*ข้อตกลงและเงื่อนไข

• พ่อแม่ต้องมีรายได้ทั้งปีภาษีไม่เกิน 30,000 บาท
• ต้องเป็นลูกแท้ ๆ ตามกฎหมายของพ่อแม่ ถึงจะสามารถนำประกันสุขภาพของพ่อแม่มาลดหย่อนได้
• ต้องมีเราหรือพ่อแม่คนใดคนหนึ่งที่อยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันในปีภาษีนั้น ๆ
• ต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย