เตรียมตัว Check List รายการลดหย่อนภาษี 2565 ฉบับมนุษย์ออฟฟิศ
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการลดหย่อนภาษีแบบสุดคุ้มในปี 2565 ใกล้เข้ามาแล้วที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราถึงวันที่ต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี แน่นอนว่าใครอยากจะชำระเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกรายการขนาดนั้นกันล่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหาว่าเรามีค่าใช้จ่ายรายการอะไรที่สามารถลดหย่อนภาษีได้บ้าง
Check List รายการลดหย่อนภาษี ฉบับมนุษย์เงินเดือน
1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
-
ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท
-
ค่าลดหย่อนคู่สมรส จำนวน 60,000 บาท
-
ค่าลดหย่อนภาษีบุตร คนละ 30,000 บาท
2. ค่าลดหย่อนภาษีประกัน
- เงินประกันสังคม สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง
- เบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพ และเบี้ยประกันอุบัติเหตุ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 25,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท
3. ค่าลดหย่อนภาษีเงินออม และการลงทุน
-
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ไม่เกิน 500,000 บาท
-
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ไม่เกิน 200,000 บาท
-
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ไม่เกิน 500,000 บาท
4. ค่าลดหย่อนภาษีเงินบริจาค
- เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ไม่เกิน 10% ของเงินได้
- เงินบริจาคเพื่อการศึกษาและการกีฬา ลดหย่อนได้ไม่เกิน 10% ของเงินได้
5. ค่าลดหย่อนอสังหาริมทรัพย์
-
ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
6. ค่าลดหย่อนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
-
โครงการช้อปดีมีคืน 2565 ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท
*ค่าซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 65
รู้วิธีคิดคำนวณภาษี 2565 รายได้เท่าไหร่ต้องยื่นเสียภาษีเงินได้
ก่อนที่จะไปดูการคำนวณค่าลดหย่อนภาษี พี่เรนนี่ขอพาไปเช็คว่าก่อนจะทำการลดหย่อนภาษีต้องเตรียมดูเงื่อนไขอะไรบ้าง ?
- รายได้ รวมตลอดทั้งปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 65 อย่างรายได้จากงานประจำทั้งหมด 12 เดือนก็เอามารวมคิดคำนวณเป็นรายได้รวมทั้งปี ส่วนใหญ่แล้วมนุษย์เงินเดือนจะได้รับเงินได้ประเภทที่ 1 เป็นเงินได้จากการจ้างแรงงาน
ตัวอย่าง พี่เรนนี่ได้รับเงินเดือน เดือนละ 80,000 บาท รวมทั้งหมด 12 เดือน คิดเป็น 80,000x12 = 960,000 และโบนัส 40,000 บาท รวมเงินได้ทั้งหมด 1,000,000 บาท - ค่าใช้จ่าย สามารถหักลดค่าใช้จ่ายแบบเหมา 50% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่เกิน 100,000 บาท
ตัวอย่าง พี่เรนนี่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุด 100,000 บาท - ค่าลดหย่อน สิทธิขอลดหย่อนภาษี ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว เงินออมและการลงทุน เงินบริจาค อสังหาริมทรัพย์ และประกัน
ตัวอย่าง พี่เรนนี่ขอใช้สิทธิหักลดหย่อนประกัน 20,000 บาท และกองทุนรวมเพื่อการออม(SSF) ลดหย่อนสูงสุดไปเลย 200,000 บาท รวมค่าลดหย่อนภาษีเป็น 220,000 บาท - อัตราภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะคิดอัตราภาษีก้าวหน้าแบบขั้นบันได หรือแบบเหมาจ่ายให้ดูดี ๆ
ตัวอย่าง พี่เรนนี่เป็นมนุษย์เงินเดือนจึงต้องคิดอัตราภาษีแบบขั้นบันไดเท่านั้น ส่วนแบบเหมาจ่ายก็เหมาะสำหรับผู้ประกอบหรือร้านค้าออนไลน์ที่เป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น
วางแผนยังไงให้ลดหย่อนแบบสุดคุ้ม ประจำปี 2565 ?
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าเรามีเงินได้ ค่าใช้จ่าย สิทธิพิเศษลดหย่อนอะไรบ้าง และต้องจ่ายภาษีแบบใด ก็สามารถนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ก่อนเลย
1. คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หลังจากนั้นนำเงินได้สุทธิของเรามาเปรียบเทียบในตารางภาษีตามด้านล่างนี้ เพื่อหาอัตราภาษีที่ต้องจ่าย ซึ่งเงินได้ 678,000 บาท จะตกไปอยู่ในช่วงอัตราภาษีขั้นที่ 4 นั้นเอง
2. คำนวณภาษีที่ต้องจ่ายแบบขั้นบันได
ขั้นที่ 2: (300,000 - 150,000) x 0.05 = 7,500 บาท
ขั้นที่ 3: [ (500,000 - 300,000) x 0.10 ] + 7,500 = 27,500 บาท
ขั้นที่ 4: [ (678,000 - 500,000) x 0.15 ] + 27,500 = 54,200 บาท
ฉะนั้นพี่เรนนี่จึงต้องเสียภาษีปี 2565 เป็นจำนวน 54,200 บาท นั้นเอง
คำนวณได้ง่าย ๆ เพียงทำขั้นตอนตามที่พี่เรนนี่บอกก็สามารถลดหย่อนภาษีด้วยสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เรามีได้แล้ว อยากให้น้อง ๆ สัปดาห์นี้ลองไปนั่ง List กันก่อนว่าเรามีสิทธิอะไรที่สามารถลดหย่อนภาษีได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นกองทุน RMF/ SSF/ PVD ที่พนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่มักมีสิทธิประโยชน์ หรือจะค่าลดหย่อนของประกันสุขภาพเจ้าต่าง ๆ ก็ได้นะ สามารถลดหย่อนได้เหมือนกัน แล้วสัปดาห์หน้าพี่เรนนี่จะขอพอไปทัวร์กรณีศึกษาการลดหย่อนภาษีด้วยประกันหลากหลายประเภทที่แตกต่างกันนะคะ แล้วเจอกันสัปดาห์นะคะทุกคน
รัก
พี่เรนนี่
ที่มา : https://www.rd.go.th/