ตีแผ่ค่ารักษาโรคอาหารเป็นพิษ x แผนประกันสุขภาพ
มาพูดถึงโรคยอดฮิตกันบ้าง ที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย แถมเกิดขึ้นได้ง่ายแบบไม่ทันได้ตั้งตัวกันเลย นั่นก็คือโรคอาหารเป็นพิษค่ะทุกคน
ว่าด้วยเรื่องโรคอาหารเป็นพิษเนี่ย อาจเกิดได้จากการเผลอไปทานอาหารปรุงไม่สุกโดนเชื้อโรคบางตัวเข้า ก็ต้องรี่หาห้องน้ำกันแทบไม่ทัน หากใครภูมิคุ้มกันดีหน่อย พักซัก 1 - 2 วัน อาการก็กลับมาหายเป็นปกติ แต่หากเกิดเป็นในช่วงที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ หรือเชื้อโรคแข็งแรงเกินต้าน ร่างกายรับไม่ไหว อาการอาจทรุดหนักต้องเข้าโรงพยาบาลขึ้นมา เสียค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายาหนักไปอีก
พี่เรนนี่เลยไปรีดข้อมูลมาให้ค่ะ ว่าอย่างเคสที่เป็นโรคอาหารเป็นพิษ หาหมอแต่ละที เสียหายไปเท่าไหร่กัน และหยิบยกแผนประกันสุขภาพบางแผนมาเทียบดู ว่าเอ๊ะ หากเรามีประกันสุขภาพราคากลางๆ ด้วยแล้ว จะเอาอยู่มั้ยนะ หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มไปอีกเท่าไหร่ ไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ สำหรับคนที่กำลังมองหาแผนประกัน ที่พอจะมาช่วยคุ้มครองความเสี่ยง ในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช่จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดกันนะคะ
Health Premium Classic
ประกันที่เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) ตามจริงแบบไม่จำกัดวงเงินค่ารักษาต่อครั้ง จัดเต็มจ่ายตามจริงแบบไม่กั๊ก ส่วนค่า OPD ก็สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ แต่ถ้ามีประกัน OPD ตัวอื่นๆ อยู่แล้ว ก็ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลยค่ะ ส่วนค่าห้องสำหรับแผน Classic จ่ายสูงสุด 3,000 บาท/คืน แต่ค่าห้องและค่าอาหารของผู้ป่วยเคสนี้ ประมาณคืนละ 3,500 บาท จึงต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่หากน้องๆ รักษาที่โรงพยาบาลรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ที่เป็นเตียงคู่ หรือห้องรวม พี่เรนนี่คิดว่าแผนนี้เอาอยู่เลยหล่ะค่ะ
Gen Health All in one
แผนนี้ครอบคลุมทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) และการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และยังให้ค่ารักษาแบบจัดเต็ม จ่ายตามจริง ให้ค่าห้องคืนละ 2,000 บาท แต่หากไม่ติดเรื่องห้อง สามารถนอนห้องที่ถูกลงมาได้ ก็จัดไปเลยค่ะ Aetna Opal แผน 1
พี่เรนนี่ยกให้เป็นอีกหนึ่งประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) ที่ค่าเบี้ยไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ และให้ความคุ้มครองเป็นแบบเหมาจ่าย และให้วงเงินคุ้มครองสูง หากต้องการ (OPD) ก็สามารถซื้อเพิ่มได้ ส่วนค่าห้อง คืนละ 2,000 บาท หากน้องนอนค่าห้องที่แพงกว่านี้ ก็ต้องชำระส่วนต่างเพิ่มFalcon คุ้มเวอร์
เห็นรายละเอียดของแผนนี้แล้ว พี่เรนนี่ก็วนอ่านอยู่หลายรอบ ตกใจตรงที่เค้าให้ค่าเบี้ยประกันแบบ fixed เลย ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ก็จ่ายแค่ 15,000 บาทต่อปี เห็นแล้วก็ค้างไปซักพัก เพราะที่พี่เรนนี่เคยเห็นมา ส่วนใหญ่ค่าเบี้ยจะปรับตามอายุของผู้เอาประกัน และเค้ายังให้ความคุ้มครองสูงสุดสำหรับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) มากถึง 1 ล้านบาทต่อปี ส่วนผู้ป่วยนอก (OPD) ก็ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ สำหรับค่าห้อง คืนละ 3,000 บาท หากน้องนอนค่าห้องที่แพงกว่านี้ ก็ต้องชำระส่วนต่างเพิ่ม
D-Health แผน 1,000,000
แผนนี้ให้วงเงินคุ้มครองผู้ป่วยใน (IPD) แบบจ่ายตามจริง และจุดเด่นสุด ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลยคือ ให้วงเงินค่าห้องแบบจ่ายตามจริง(รูปแบบห้องตามที่เงื่อนไขกำหนด) ก็สามารถนอนโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจ แต่ที่ไม่ค้มครองคือผู้ป่วยนอก (OPD) หากเรามีประกันสังคม หรือประกัน OPD อื่นๆ ก็สามารถนำมาใช้คู่กันได้ค่ะ
นี่ขนาดเราซื้อประกันสุขภาพแล้ว ก็ยังคุ้มครองไม่ครอบคลุมเลยหรอคะพี่เรนนี่?
ใช่แล้วค่ะ แต่มองมุมกลับ หากเราไม่มีประกันเลย จะต้องเสียไปเท่าไหร่ กับค่ารักษาโรคอาหารเป็นพิษเพียงไม่กี่คืน เห็นแล้วก็ไม่กล้าจะป่วยเลยหล่ะ - -’
ทั้งนี้ทั้งนั้น ประกันจะ Cover ค่ารักษาของเรามากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เราซื้อด้วยนะคะ หากน้องๆ ต้องการให้คุ้มครองทุกโรค นอนโรงพยาบาลหรูแค่ไหนก็ได้ ก็จะมีแผนประกันสำหรับชาว Elite ซึ่งค่าเบี้ยก็จะสูงไปตามๆ กันค่ะ แต่หากต้องการอย่างพอเพียง คุ้มครองหลักแสน ค่าเบี้ยหลักหมื่น เข้าโรงพยาบาลเอกชนได้ กระเป๋าไม่ฉีก แผนประกันเหล่านี้ ที่พี่เรนนี่ยกเป็นตัวอย่างให้ ก็ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงได้ไม่น้อยนะคะ
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ในการช่วยตัดสินใจเลือกแผนประกันแก่น้องๆ นะคะ
หากดูแล้ว ยังมีข้อสงสัยอะไร หรือต้องการเพื่อน ช่วยให้คำปรึกษาในการเลือกแผนประกัน ก็ทักมาคุยกับพี่เรนนี่ ได้เลย