remove_red_eye1.9K Views
ซีรี่ส์เคลมประกัน [ตอนที่ 3] การใช้สิทธิ์เบิกเคลมเราต้องทำอะไรบ้าง
โพสต์วันที่ 21/09/2021
[ตอนที่ 3] การใช้สิทธิ์เบิกเคลมเราต้องทำอะไรบ้าง
จากซีรี่ย์สองตอนแรกที่พี่เรนนี่พาน้องๆไปรู้จักรูปแบบการเคลม และกระบวนการเคลมแบบต่างๆกันแล้ว มาถึงเรื่องข้อมูลเอกสารบ้างว่าต้องเตรียมอะไรไปให้ปังๆ ไม่ให้มีปัญหาเรื่องเอกสารและผ่านกระบวนตรวจสอบไวๆไม่สะดุด ตอนนี้พี่เรนนี่จะมาคุยเรื่องช่องทางการส่งเคลมด้วยตัวเอง และก็รายการเอกสารที่ต้องเตรียมให้ครบนะคะ
เรามาดูกัน ว่าการส่งเอกสารการเคลมกับบริษัทประกันเนี่ยจะสามารถทำผ่านทางช่องทางไหนกันบ้างยื่นเคลมเองที่ไหน?
- ช่องทางปกติ ส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันแทบทุกเจ้าจะมีให้เลือกส่งช่องทางนี้
- ส่งไปรษณีย์ โดยส่งเอกสารทั้งหมดไปยังที่อยู่บริษัทประกันกำหนด
- ช่องทางพิเศษเพิ่มเติม ช่องทางนี้บางบริษัทอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้นะ น้องๆสามารถเช็คกับบริษัทที่ตัวเองทำอยู่ได้เลย
- ยื่นสาขา ติดต่อสาขาใกล้บ้านเพื่อนำส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่สาขาดำเนินเรื่องให้
- ยื่นผ่านตัวแทน หากเรามีพี่ๆตัวแทนที่ดูแลเราอยู่อาจจะให้เค้าทำเรื่องแทนเราก็ได้
- ผ่าน Application พี่เรนนี่ชอบวิธีนี้มากก มันช่วยลดระยะเวลาการกรอก การแนบเอกสารได้เยอะเลย แต่เราต้องเช็คกับบริษัทประกันที่เราทำอยู่กันนะ ว่ากรอกในแอปแล้วจบเลยมั้ย บางที่ก็ยังต้องส่งพวกใบเสร็จตัวจริงไปให้ต่างหากอยู่แต่ละบริษัทก็มีไม่เหมือนกันน้า
กรณีเบิกค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นเอกสารการเคลม(การเรียกร้องค่าสินไหม) ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
- แบบฟอร์มใบเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ตามแต่ละบริษัทกำหนด โดยกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มให้ครบทุกข้อ ตรวจสอบความถูกต้อง
- ใบรับรองแพทย์ที่ระบุสาเหตุการบาดเจ็บที่ชัดเจน (แพทย์ลงนามและประทับตราสถานพยาบาล หรือ โรงพยาบาล) อันนี้สำคัญมาก จะเบิกได้ไม่ได้ขึ้นกับว่าแพทย์เขียนว่าเป็นอะไรเลยนะในบางเคส
- ใบเสร็จรับเงินแสดงค่าใช้จ่ายต่างๆจากสถานพยาบาล (ต้นฉบับ) ต้องเป็นต้นฉบับเท่านั้นนะ ไม่ใช่ต้นฉบับใช้ไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเราเบิกเคลมกับหลายบริษัทประกัน จะต้องเวียนเอกสาร หมายถึงต้องยื่นเอกสารทีละบริษัท เมื่อบริษัทที่ 1 พิจารณาใบเสร็จเสร็จเค้าจะ stamp หรือ ทำ ramark ว่าได้เคลมกับบริษัท 1 แล้วตรงไหนบ้าง แล้วเราค่อยเอาไปยื่นกับที่บริษัท 2 ต่อได้
- ฟิล์มเอ็กซเรย์ หรือผลการอ่านฟิล์ม ในกรณีที่มีกระดูกหักหรือร้าว
- สำเนาบัตรประกันสุขภาพ เซ็นรับรองให้เรียบร้อยด้วย
- สำเนาบัตรประชาชน เซ็นรับรองให้เรียบร้อยด้วย
- สำเนาเลขบัญชีสมุดเงินฝากธนาคาร (Book Bank) (ขึนอยู่กับบริษัทประกัน) เซ็นรับรองให้เรียบร้อยด้วย
แบบฟอร์มใบเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
กดดาว์นโหลดปริ้นได้เลย- บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต คลิก
- บริษัทเมืองไทยประกันภัย คลิก
- บริษัทซิกน่าประกันภัย คลิก
- บริษัทเอ็ทน่า คลิก
- บริษัทฟอลคอนประกันภัย คลิก
- บริษัทเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย คลิก
- บริษัทเจนเนอราลี่ประกันชีวิต คลิก
- บริษัทแมนูไลฟ์ประกันชีวิต คลิก
- บริษัทแอลเอ็มจี ประกันภัย คลิก
สุดท้ายนี้พี่เรนนี่ขอสรุปสั้นๆให้ทุกคนไม่สับสนกันระหว่างการเคลมแบบ IPD และ OPD กันนะคะ ว่าสิ่งที่เหมือนกันก็คือ หากเรารักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญาเราจะไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ขั้นตอนการเคลม แบบฟอร์มการขอเงินคืน และการตรวจสอบสิทธิ์ประกันระหว่างบริษัทประกันและโรงพยาบาลจะมีขั้นตอนที่ไม่เหมือนกัน ข้อสำคัญที่สุดคือถ้าน้องๆ ต้องยื่นเอกสารขอเงินคืนอย่าลืมยื่นเรื่องภายใน 30 วันหรือตามระยะเวลาที่บริษัทกำหนดกันน้า เพราะถ้าเกินเวลาไปแล้วจะไม่สามารถทำเรื่องขอเงินคืนได้นะ
ด้วยรัก
พี่เรนนี่.
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#เคลมประกันสุขภาพ
#เคลมประกันสุขภาพรีวิวประกัน
#claim
#เคลมค่ารักษาพยาบาล