รายละเอียดประกัน
ตัวนี้จะขายอยู่หลายช่องทางนะ
- ถ้าเป็นช่องทาง online จะขายแค่ 2 แผนคือ แผน 1 และ แผน 2 ที่ให้ค่าห้อง 2000 และ 4000 บาท ตามลำดับ
- ส่วนช่องทางตัวแทนจะมีแผนที่ 3 เพิ่มขึ้นมาด้วย ถ้าสนใจก็ถามหาชื่อแผน Extra Care Plus นะจ๊ะ
จุดเด่น
- เบี้ยต่อปีไม่แพงมาก แต่สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายหากต้องนอนพักในโรงพยาบาล
- เหมาะสำหรับคนที่มีประกันกลุ่มของบริษัทอยู่แล้ว
- นำไปลดหย่อนภาษีได้
ความจริงที่ต้องรู้ไว้
- ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนแรกก่อน เช่น หากเป็นแผน 1 ต้องจ่ายเองหรือเบิกสิทธิ์ประกันกลุ่มของบริษัทสำหรับก้อน 20,000 บาทแรก ส่วนที่เกินจากยอดนี้ ประกันเมืองไทยสุขภาพ Top-up จะจ่ายให้ตามค่าใช้จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท/ครั้ง
- หากเกิดโรคที่ต้องเข้ารักษาภายใน 30 วันนับแต่มีผลคุ้มครอง ประกันจะไม่คุ้มครอง
- ถ้าซื้อ online จะรับตั้งแต่อายุ 18-70 ปี แล้วต่ออายุได้ถึง 90 ปี
- ถ้าซื้อกับตัวแทน จะรับตั้งแต่อายุ 18-70 ปี แล้วต่ออายุได้ถึง 80 ปี
รีวิวจากรีวิวประกัน
ทำไมต้องซื้อประกันเพิ่ม
กวาง : ตอนแรกไม่ได้คิดจะซื้อเพราะเห็นว่าประกันสุขภาพต้องจ่ายทิ้ง แต่เห็นพี่ๆ ในออฟฟิศซื้อกัน และบอกว่าต้องซื้อแล้วนะ อายุ 30 แล้ว
ได้ข่าวว่ามีประกันหลายตัว เล่าให้ฟังหน่อย
กวาง : ประกันที่บริษัทให้อยู่แล้วเป็นสวัสดิการส่วนนึง คิดว่าจะพอช่วยได้บ้าง แต่พอมาดูค่าห้องที่บริษัทให้ มันแค่ 1,000 - 2,000 บาท แต่พอมาดูค่าห้องโรงพยาบาลแถวบ้าน อย่างโรงพยาบาลรัฐห้อง 1,200 มันไม่มีแล้ว พอมาดูตัว Top up มันมีส่วนที่เป็นค่าห้อง และส่วนที่เป็นค่ารักษาพยาบาล ที่ Top up ให้เราไปอีก เลยคิดว่าน่าจะเหมาะ แล้วไม่แพงมากด้วย แต่ละปีเพียง 7,000 กว่าบาท คิดว่าจ่ายไหวค่ะ พออายุมากขึ้น ค่าเบี้ยก็ไม่แพงมากด้วย
Top up คืออะไร
ปกติถ้าเราซื้อประกันสุขภาพเขาก็จะให้ค่ารักษาตั้งแต่บาทแรกเลย สมมุติบิล 5,000 บาท เข้าก็จะให้ตั้งแต่บาทที่ 0 - 5,000
แต่ตัว Topup จะมีส่วนที่เราต้องจ่ายเองด้วยส่วนนึง สมมุติแผนประกันนี้ ค่าที่เราต้องจ่ายเอง ส่วนแรก 20,000 บาท แต่บิลออกมา 50,000 บาท ทางบริษัทประกันก็จะจ่ายให้เรา 30,000 บาท เราก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเองส่วนนึง ซึ่ง ถามว่าแบบนี้ก็เคลมได้ไม่หมดสิ แต่มันทำให้ค่าเบี้ยเราถูกลง
คุ้มหรอ?
คือถ้าเราไปดูประกันที่อื่น ที่เค้าให้ค่าคุ้มครองตั้งแต่บาทแรก ค่าเบี้ยจะแพง เป็นหลักหมื่นขึ้นไปซึ่งแพงกว่านี้ แต่ในมุมเราเองที่เป็นพนักงานบริษัท ที่มีประกันสุขภาพที่บริษัทอยู่แล้ว ตัวค่าใช้จ่ายส่วนแรก 20,000 เราก็ใช้ประกันที่บริษัทให้ ก็แปลว่าเราแทบไม่ต้องจ่ายเองเลย
สรุป Top up ดียังไง ?
- ค่าเบี้ยถูกกว่า : เนื่องจากเป็นประกันสุขภาพ ค่าเบี้ยจึงถูกกว่าประกันทั่วๆ ไป
- เหมาะกับพนักงานบริษัท : ที่มีส่วนของประกันสุขภาพที่บริษัทให้อยู่แล้ว และซื้อประกัน Top up ที่ Cover ค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะทำให้เราโอเค จ่ายไหว
- Top up แบบแยกค่าห้องต่างหาก : เพราะจริงๆ แล้ว ถ้าเราไปนอนห้องที่แพงหน่อยก็จะนับให้ตั้งแต่บาทแรกเลย ก็คือแยกในส่วนของค่าห้องและค่ารักษาพยาบาลออกจากกัน สมมุติว่าเราไปรักษาพยาบาล 50,000 บาท มีตัวสุขภาพ Top up ให้ค่าห้องวันละ 4,000 บาท และหากได้ค่าห้องจากประกันบริษัทอีก 1,000 บาท จะทำให้เราได้ค่าห้องถึง 5,000 บาท/คืน ในส่วนของค่าห้องมาตรฐานนะคะ ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล สมมุติว่าบิลค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากค่าห้อง 50,000 บาท มีค่าใช้จ่ายส่วนแรก 20,000 บาท เราก็ให้ประกันบริษัทจ่าย ตัว 30,000 บาท หลัง สุขภาพ Top up ก็จะจ่ายให้เราทั้งหมด
ถ้าค่าใช้จ่ายไม่ถึง 20,000 จะได้ค่าห้องด้วยมั้ย ?
กรณีค่ารักษาพยาบาล 15,000 บาท ตัวสุขภาพ Top up จะไม่ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ให้ ส่วนค่าห้อง ยัง Cover อยู่ ก็จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้