ประกันภัยโรคมะเร็ง เจอ จ่าย จบ จาก LMG กับความช่วยเหลืออีกหลายต่อ

รีวิวประกันภัยโรคมะเร็ง เจอ จ่าย จบ จาก LMG โดยคุณลูกแก้ว

Q: รบกวนคุณลูกแก้ว ช่วยแนะนำตัวนิดนึงได้มั้ยคะ?
A: สวัสดีค่ะ ชื่อลูกแก้วนะคะ ตอนนี้อายุ 28 ปี เป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไป ทำงานอยู่แถวสาทรค่ะ

 
Q: อยากให้เล่าถึงประวัติการทำประกันสุขภาพของตัวเองคร่าว ๆ ให้ฟังได้ไหมคะ?
A: ค่ะ จริง ๆ เริ่มทำประกันตัวแรกเมื่อสองปีที่แล้วก็คือประกันโรคมะเร็งของ LMG แบบเจอแล้วจ่ายเลย เพราะยังไม่ค่อยมีเงินมากพอจะจ่ายเบี้ยประกันสูง ๆ ได้ แต่ว่าตอนนี้ก็มีซื้อเพิ่มตัวอื่นๆขึ้นมาแล้ว เพราะการเงินตัวเองเริ่มมั่นคง ก็เลยสามารถซื้อแผนประกันสุขภาพแบบที่จ่ายได้ครอบคลุมมากกว่าในระยะยาว บวกตอนนี้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ ทางที่ทำงานก็มีประกันที่เข้ามาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายสุขภาพไว้ให้ด้วยค่ะ


Q: อยากให้เล่าขยายความอีกหน่อยได้ไหมคะ ว่าตอนที่เราเริ่มทำประกันสุขภาพตัวแรก มีวิธีเลือกยังไง แล้วทำไมถึงเลือกประกันโรคมะเร็งของ LMG?
A: ตอนนั้นคือไม่มีความรู้เรื่องประกันอะไรเลยค่ะ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่าเราควรจะเริ่มทำประกันได้แล้ว ก็เห็นเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็เริ่มทำกัน และจริง ๆ ก็เป็นคนที่กลัวการเป็นมะเร็งอยู่ในระดับหนึ่งเลย เพราะมีญาติห่าง ๆ ที่เป็นแล้วเสียกันไปหลายคน ก็เลยเสิร์ชคำว่าประกันโรคมะเร็งในกูเกิ้ลเลย แล้วก็เห็นมีประกันหลักหลายตัวที่เป็นแบบเจอโรคปุ๊บก็ได้เงินก้อนทันที แบบเปิดโลกมาก เพราะตอนแรกลูกแก้วคิดว่าถ้าทำประกัน เวลาเคลมค่าใช้จ่ายน่าจะยุ่งยากมาก ๆ แล้วเรายังไม่มีความรู้อะไรเรื่องนี้มาก เราก็คิดว่าแบบนี้เข้าใจง่ายดี

ลูกแก้วเลยลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันมะเร็งแบบเจอแล้วจ่ายหลายเจ้า ก็มาสะดุดเอาของประกัน LMG ที่มีเสริมความคุ้มครองเป็นเงินก้อนเหมือนกันสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อย่างเช่นค่าเคมีบำบัดและค่าชดเชยรายวัน แล้วจ่ายเบี้ยเพิ่มเพียงแค่ประมาณร้อยบาท ตอนนั้นแอบตื่นเต้นเพราะของแถมค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าประกันตัวนี้คุ้มกว่าตัวอื่น ๆ


Q: แล้วในประกันมะเร็ง LMG ตัวนี้ คุณลูกแก้วเลือกเป็นแผนแบบไหนคะ? เพราะเห็นมี option ให้เลือกเยอะแยะไปหมด
A: ลูกแก้วเลือกเป็นแผนครอบคลุม แบบแผน 2 จ่ายปีละ 1,900 บาท เพราะตอนนั้นรู้สึกว่าถ้ามีค่าชดเชยรายได้ให้ด้วยนี่ถือว่าคุ้ม เพิ่มค่าใช้จ่ายแค่ร้อยเดียวเองจากแผนหลัก แต่พอย้อนกลับมาดูตอนนี้ก็รู้สึกว่าจริง ๆ มันก็ยังไม่สุดนะ


Q: อ้าว ทำไมล่ะคะ?
A: เพราะว่าแผนที่ลูกแก้วเลือก จะจ่ายเงินก้อนถ้าเป็นมะเร็งสูงสุดให้แค่ 300,000 บาท ตอนนั้นไม่ได้รีเสิร์ชเลยค่ะว่าถ้าเป็นมะเร็งแล้วค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะตกอยู่ที่เท่าไหร่ ปรากฏว่าเอาจริง ๆ ถ้าเป็นมะเร็งค่าใช้จ่ายถึงหลักล้านก็มี เงินสามแสนก็ช่วยแหละ แต่ก็ยังต้องหืดขึ้นคอหาอีก 700,000 มาจ่ายที่เหลือ

แล้วเอาจริง ๆ ตอนนี้พอมารีเสิร์ชอีกที ก็พบว่ามีประกันมะเร็งอีกหลายตัวที่มีทุนประกันสูงกว่า แต่ค่าเบี้ยก็สูงตามด้วย เราว่าก็ซื้อตามกำลังนะ ใครมีมากก็ซื้อมากได้ ใครเบี้ยน้อยหอยน้อยก็ค่อยๆซื้อไป เพราะเราก็ซื้อหลายๆกรมธรรม์ได้ไง พวกเจอ-จ่าย-จบ เวลาเจอทีก็เบิกได้จากทุกเจ้า ก็ค่อยๆซื้อเก็บไปได้จ้า


Q: งั้นคุณลูกแก้วมีอะไรอยากที่จะฝากถึงคนที่เพิ่งเริ่มทำประกันสุขภาพตัวแรกบ้างไหมคะ?
A: แก้วคิดว่ายิ่งเราทำประกันสุขภาพเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าความป่วยจะมาหาตอนไหน ยิ่งโรคร้ายแรงแล้วด้วย หลายๆทีก็มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่แก้วก็เข้าใจคนที่ทำประกันสุขภาพตัวแรกนะคะ ว่าเรายังไม่ค่อยมีประสบการณ์หรือรู้เรื่องประกันมากเท่าไหร่ ยังไงก็คงได้แต่แนะนำว่าให้ซื้อประกันสุขภาพตามงบประมาณของเราที่มี และลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยค่ะว่าโรคที่เรากังวลและอยากทำประกันคุ้มครองนั้น ๆ ค่าใช้จ่ายในการรักษาจริง ๆ จะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ และตัวเราเองมีเงินทุนหรือเงินเก็บพอที่จะจ่ายค่ารักษาด้วยตัวเองขนาดไหน เราจึงค่อยมาเลือก ประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองเหมาะสม มีค่าเบี้ยในระดับที่เราจ่ายไหว และอย่าลืมเปรียบเทียบประกันสุขภาพหลายๆตัวไว้ก่อนด้วย จะได้สามารถเลือกประกันสุขภาพที่ดีที่สุดกับเราได้จริง ๆ ค่ะ


พี่เรนนี่และทีมงานเว็บไซต์รีวิวประกัน ขอขอบคุณคุณลูกแก้วที่มาบอกเล่าประสบการณ์การเลือกซื้อประกันภัยโรคมะเร็ง เจอ จ่าย จบ จาก LMG ที่ทำให้สามารถเห็นภาพได้มากขึ้นว่าประกันตัวนี้คุ้มจริงอย่างที่เขาบอกหรือไม่ และถ้าหากคุณอยากอ่านรีวิวประกันตัวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ก็สามารถเข้ามาอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์รีวิวประกันได้เลยนะคะ