remove_red_eye1.2K Views
เที่ยวปันสุข เรื่องควรรู้ก่อนเดินทางหลังโควิด
โพสต์วันที่ 17/06/2020
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ศบค. แถลงมติที่ประชุมล่าสุด อนุมัติผ่อนคลายระยะ 4 เริ่ม 15 มิ.ย.63 ยกเลิกเคอร์ฟิว ให้เปิดโรงเรียนขนาดเล็ก ให้ขายเหล้านั่งกินที่ร้าน แต่ยังคงปิดสถานบันเทิง - อาบอบนวดต่อ ข่าวดีสำหรับชาวเราที่จิตใจห่อเหี่ยวกับการอยู่บ้านแล้ว ก็คืออนุญาตให้เดินทางข้ามเขตจังหวัดได้แล้ว จึงทำให้ใครหลายๆ คนคงอยากเดินทางท่องเที่ยวกันแล้ว
แพ็คเกจที่รัฐฯออกมามี 3 อย่างด้วยกัน
Photo credit: Background photo created by benzoix - www.freepik.com
เมื่อเราหาเส้นทางการเดินทางหลังโควิดของเราได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นขนส่งสาธารณะหรือขับรถไปเอง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ที่ๆ เราจะมีมีความเสี่ยงระดับไหน และต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง?
สุดท้าย ประเทศเราผ่อนคลายระยะ 4 และยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว เราขอให้ทุกคนมีชีวิตที่ผ่อนคลายมากขึ้น enjoy กับโปรโมชันโรงแรมราคาดีต่างๆ ได้เดินทางหลังโควิด ท่องเที่ยวกันมากขึ้น แต่อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ ไม่ประมาท เพราะถ้าโควิดกลับมาระบาดในประเทศเราอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ
Photo Credit:
แคมเปญจากรัฐบาล
ล่าสุดวันที่ 16 มิถุนายน 2563 รัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มในช่วง 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2563 โดยเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน Platform ของธนาคารกรุงไทย เพื่อรับ Promotion Code พวกเราเตรียวรอลงทะเบียนได้เลยจ้าแพ็คเกจที่รัฐฯออกมามี 3 อย่างด้วยกัน
- เที่ยวปันสุข: เพื่อช่วยเหลือสายการบิน low cost และรถเช่า โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทาง 40% (ไม่เกิน 1,000 บาท) และกำหนดให้สายการบิน low cost ขาบตั๋วเครื่องบินในประเทศไป-กลับราคา 2,500 บาท
- เราไปเที่ยวกัน: เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าโรงแรมที่พัก 40% ต่อคืน หรือไม่เกิน 3,000 บาท/คืน (สูงสุดไม่เกิน 5 คืน) และ สนับสนุนวงเงิน E-Wallet 600 บาท/คืน (สูงสุดไม่เกิน 5 คืน) เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมท่องเที่ยว
- กำลังใจ: เพื่อบุคคลากรแนวหน้าที่เป็นด่านหน้ารับมือสถานการณ์โควิด-19 โดยให้อสม. และเจ้าหน้าที่ รพสต. รวม 1.2 ล้านคนรับสิทธิ์ในการเที่ยวฟรีผ่านบริษัทนำเที่ยว 2 วัน 1 คืน เป็นค่าใช้จ่าย 2,000 บาท/คน
เรื่องการเดินทางหลังโควิดภายในประเทศ
การขนส่งสาธารณะข้ามเขตพื้นที่
- เครื่องบินขายตั๋วได้เกือบ 100% จากเดิมขายตัวได้แค่ 70% ของที่นั่ง เนื่องจาก ศบค. เห็นว่า ภายในเครื่องบินมีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี และเที่ยวบินภายในประเทศใช้เวลาบินไม่ถึง 1 ชั่วโมง ขณะที่การติดเชื้อโควิด-19 ต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- รถโดยสาร (รถทัวร์) ยังคงขายตั๋วได้ 70% ของที่นั่ง เนื่องจากมีระบบถ่ายเทอากาศไม่ดีเท่าเครื่องบินและต้องมีการลงทะเบียนเพื่อติดตามตัว
Photo credit: Background photo created by benzoix - www.freepik.com
ท่าอากาศยานที่ให้บริการในประเทศเท่านั้น
|
ท่าอากาศยานที่เปิดให้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ
|
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการเดินทางของเรามีความเสี่ยง?
เมื่อเราหาเส้นทางการเดินทางหลังโควิดของเราได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นขนส่งสาธารณะหรือขับรถไปเอง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ที่ๆ เราจะมีมีความเสี่ยงระดับไหน และต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง?- ตรวจเช็คตัวเองก่อนว่าร่างกายเราแข็งแรงขนาดไหน เป็นคนป่วยง่ายรึเปล่า เวลามีคนรอบตัวเป็นหวัด แล้วเรามักจะติดเขามารึเปล่า ถ้าใช่ก็อาจจะต้องเลือกสถานที่ปลายทางที่ค่อนข้างโปร่ง อากาศถ่ายเท และคนไม่พลุกพล่าน ไม่มีคนต่างถิ่น
- ตรวจสอบว่าสถานที่ปลายทางที่เราจะไปมีความเสี่ยงกับการติดโรคขนาดไหน ถ้าหากคนพลุกพล่านเกินไปก็อาจตัดสินใจประกอบกับความจำเป็นในการเดินทาง และสภาพร่างกายของเราด้วย
- ให้ความสำคัญกับความสะอาดของที่พักและอาหาร เพราะเป็นอะไรที่เราสัมผัสหรือกินเข้าไปโดยตรง เช็คให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการได้รักษาความสะอาด ฆ่าเชื้อตามมาตรฐานโควิด-19 ด้วย
- เลือก หรือ หลีกเลี่ยงกิจกรรมระหว่างการท่องเที่ยวหรือเดินทางที่สุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสกับคนไม่รู้จัก หรืออยู่ในพื้นที่ที่พลุกพล่านและไม่ถ่ายเท
- ตรวจเช็คว่าสถานที่ๆ เราจะไปมีความเสี่ยงที่จะติดโรคอะไรไหม นอกจากโควิด เช่น ถ้าไป Home Stay กลางป่า กลางเขาก็ต้องระวังไข้เลือดออก ควรจะฉีดยากันไข้เลือดออกไว้ เตรียมยากันยุงไปด้วย หรือถ้าไม่มั่นใจว่าสถานที่ๆ เราจะไปก็ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนไปก็ดี
- ศึกษาโรงพยาบาลใกล้ๆ สถานที่ๆ เราจะไปเที่ยว ว่าอยู่ตรงไหน เดินทางไปอย่างไร เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- สุดท้าย อย่าลืมเรื่อง Social Distancing ตลอดการเดินทาง อย่าลืมว่า เวลาเราไปสถานที่ท่องเที่ยวหรือเราขึ้นขนส่งสาธารณะ เราไม่รู้ว่า คนที่อยู่ข้างๆ เราเขามาจากไหน มีโอกาสรับเชื้อโควิด-19 มาขนาดไหน เราก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ทั้งการใส่หน้ากาก และหมั่นล้างมือบ่อยๆ เช่นเคย
เราควรซื้อประกันท่องเที่ยวไหม?
ถ้าถามพี่ พี่เรนนี่ว่าควรซื้อสุดๆ เลยโดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ นอกจากความเสี่ยงทั่วไปอย่างเช่นเครื่องบินล่าช้า กระเป๋าหาย อะไรต่างๆ นานาแล้ว นอกจากนั้นประกันยังอยู่ดูแลเราเรื่องค่ารักษาพยาบาลระหว่างทริป นอกจากนั้น เรายังแนะนำให้ซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลอีกด้วย เพราะเราอาจจะเจออุบัติเหตุระหว่าทาง และนอกจากนั้นประกันโควิดก็ต้องมี เพราะอย่างที่บอกไปด้านบนว่า เราเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ เราไม่รู้ว่าคนข้างๆ เราเขาเป็นใคร เดินทางมาจากไหนบ้าง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโควิดขนาดไหนสุดท้าย ประเทศเราผ่อนคลายระยะ 4 และยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว เราขอให้ทุกคนมีชีวิตที่ผ่อนคลายมากขึ้น enjoy กับโปรโมชันโรงแรมราคาดีต่างๆ ได้เดินทางหลังโควิด ท่องเที่ยวกันมากขึ้น แต่อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ ไม่ประมาท เพราะถ้าโควิดกลับมาระบาดในประเทศเราอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ
Photo Credit: