remove_red_eye0.9K Views
เปิดเทอมหลังโควิด การศึกษาไทยจะเป็นอย่างไร
โพสต์วันที่ 02/07/2020
วันที่ 1 ก.ค. เด็กๆ ได้ เปิดเทอมหลังโควิดอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่โควิดทำพิษทำให้เด็กๆ อยู่บ้านกันตั้งนาน บางทีก็ทำให้พ่อๆ แม่ๆ ที่ Work From Home กลายเป็น Multi Tasking ทั้งทำงาน และทั้งเลี้ยงลูก อาจจะมึนๆ ประสาทเสียกันบ้าง 55 โควิดกระทบนักเรียนในประเทศไทยมากกว่า 1.5 พันล้านคน หรือ 90% ของนักเรียนไทย เรามาดูกันหน่อยว่า หลังจากที่มีการผ่อนปรนมาตรการการรับมือโควิดและเปิดเทอมหลังโควิด การศึกษาของประเทศไทยจะเป็นอย่างไรหลังจากโควิด
จากการที่โควิดระบาด บางคนก็บอกว่าจริงๆ แล้วโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้โลกการศึกษาพัฒนาเร็วขึ้น สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดมากคือ การเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้อยู่ในรูปดิจิทัล หรือเปลี่ยนการศึกษาให้เป็นแบบออนไลน์มากขึ้น เพราะเราถูกปิดเมืองหรือกึ่งปิดเมือง แล้วมีการทำ Social distacing ทำให้เราไม่สามารถเข้าใกล้กัน ไม่สามารถเจอกันได้มากเท่าที่ควร การศึกษาเราถึงต้องมาพึ่งพา Digital มากขึ้น ตั้งแต่การทำงาน ไปจนถึงการศึกษาของเด็กๆ
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หรือการศึกษาทางไกล ทั้งหมดเหมือนถูกโยนเข้ามาให้เป็นหน้าที่คุณครูและเด็กๆ ทันที ซึ่งเมื่อก่อนมีแต่การคุยๆ กันเรื่องการเรียนออนไลน์ และการเรียนทางไกล ทีนี้ทุกคนจึงต้องโดน Flight บังคับกันถ้วนหน้า เพราะแม้นักเรียนจะยังไปโรงเรียนไม่ได้ แต่คุณครูและโรงเรียนต้องหาวิธีจัดการเรียนการสอนต่อไปให้ได้ ซึ่งเป็นงานที่ creative มาก ถ้าใครได้เคยเห็นผู้ปกครองหรือคุณครูแชร์วิธีการสอนลง social media จะรู้สึกชื่นชมคุณครูมากๆ เพราะคุณครูต้องใช้วิธีการที่หลากหลายในการดึงดูดความสนใจของเด็กๆ เนื่องจากธรรมชาติของเด็กนั้นยากมากที่จะจดจ่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเรียน 8 ชั่วโมงต่อวันได้ดี เช่น การแต่งชุดแฟนซีมาสอน, มีกิจกรรมเต้นเข้าจังหวะ, ใช้เทคนิคเปลี่ยนพื้นหลังของจอคอมให้น่าสนใจ เป็นต้น
Photo Credit: School photo created by jcomp - www.freepik.com
นอกจากนั้นเด็กๆ พ่อแม่ และคุณครูคงจะได้ถอดบทเรียนจากการศึกษาช่วงโควิด และเล็งเห็นคุณค่าของเทคโนโลยีมากขึ้น มีการเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีอย่างเป็นประโยชน์ดีขึ้น และได้พัฒนามาเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างแท้จริง
Photo Credit:
จากการที่โควิดระบาด บางคนก็บอกว่าจริงๆ แล้วโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้โลกการศึกษาพัฒนาเร็วขึ้น สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดมากคือ การเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้อยู่ในรูปดิจิทัล หรือเปลี่ยนการศึกษาให้เป็นแบบออนไลน์มากขึ้น เพราะเราถูกปิดเมืองหรือกึ่งปิดเมือง แล้วมีการทำ Social distacing ทำให้เราไม่สามารถเข้าใกล้กัน ไม่สามารถเจอกันได้มากเท่าที่ควร การศึกษาเราถึงต้องมาพึ่งพา Digital มากขึ้น ตั้งแต่การทำงาน ไปจนถึงการศึกษาของเด็กๆ
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หรือการศึกษาทางไกล ทั้งหมดเหมือนถูกโยนเข้ามาให้เป็นหน้าที่คุณครูและเด็กๆ ทันที ซึ่งเมื่อก่อนมีแต่การคุยๆ กันเรื่องการเรียนออนไลน์ และการเรียนทางไกล ทีนี้ทุกคนจึงต้องโดน Flight บังคับกันถ้วนหน้า เพราะแม้นักเรียนจะยังไปโรงเรียนไม่ได้ แต่คุณครูและโรงเรียนต้องหาวิธีจัดการเรียนการสอนต่อไปให้ได้ ซึ่งเป็นงานที่ creative มาก ถ้าใครได้เคยเห็นผู้ปกครองหรือคุณครูแชร์วิธีการสอนลง social media จะรู้สึกชื่นชมคุณครูมากๆ เพราะคุณครูต้องใช้วิธีการที่หลากหลายในการดึงดูดความสนใจของเด็กๆ เนื่องจากธรรมชาติของเด็กนั้นยากมากที่จะจดจ่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเรียน 8 ชั่วโมงต่อวันได้ดี เช่น การแต่งชุดแฟนซีมาสอน, มีกิจกรรมเต้นเข้าจังหวะ, ใช้เทคนิคเปลี่ยนพื้นหลังของจอคอมให้น่าสนใจ เป็นต้น
Photo Credit: School photo created by jcomp - www.freepik.com
มาตราการรักษาความปลอดภัยจากเชื้อโควิดสำหรับสถานศึกษา
วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกและได้กำหนดมาตราการ 6 ข้อ เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่ศึกษาปลอดภัยจากเชื้อโควิด เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง- การมีมาตรการคัดกรอง เช่น วัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียน ผู้ปกครองร่วมให้ประวัติหากมีความเสี่ยง หากเด็กมีอาการไข้ไม่สบายต้องหยุดเรียนทันที และแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่ออยู่ในโรงเรียน
- จัดจุดล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างเพียงพอ
- การเว้นระยะห่างในห้องเรียน เน้นจัดการเรียนการสอนให้เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ให้มีกิจกรรมทำในกลุ่มเดียวกันตลอดทั้งวัน
- เน้นการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกัน อาทิ สนามเด็กเล่น ลูกบิดประตู ห้องน้ำ ร่วมกับการจัดกลุ่มสลับกันใช้งานเพื่อช่วยลดการสัมผัสร่วมกันจำนวนมาก
- ลดความแออัด ไม่จัดกิจกรรมที่เกิดการรวมกลุ่มของเด็ก
คำถามที่ผู้ปกครองควรถามครูและโรงเรียน ก่อนเปิดเทอมหลังโควิด?
นอกจากมาตรการของรัฐบาลแล้ว เราคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เราจะสอบถามโรงเรียนเพิ่มเติมให้แน่ชัด เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวถูก คำถามที่แนะนำมีตามนี้ค่ะ- นอกเหนือจากมาตรการที่รัฐบาลกำหนดแล้ว โรงเรียนมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมบ้าง?
โรงเรียนจะรับมือกับการที่มีเด็กนักเรียนป่วยด้วยโรคอื่นๆ อย่างไร ที่จะไม่ให้โดนรังแก? - นอกเหนือจากการดูแลของโรงเรียนแล้ว สมาคมผู้ปกครอง หรือผู้ปกครองสามารถช่วยอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง?
- หลังจากที่เรียนออนไลน์ผ่านไป ถ้านักเรียน (ลูกเรา) เรียนไม่ทันจะทำอย่างไรดี?
นอกจากนั้นเด็กๆ พ่อแม่ และคุณครูคงจะได้ถอดบทเรียนจากการศึกษาช่วงโควิด และเล็งเห็นคุณค่าของเทคโนโลยีมากขึ้น มีการเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีอย่างเป็นประโยชน์ดีขึ้น และได้พัฒนามาเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างแท้จริง
Photo Credit: