หมอชนะ และ ไทยชนะ จะช่วยเราจากโควิดระลอก 2 ได้ไหม?
หมอชนะ
เกิดจากที่บุคคลากรทางการแพทย์พบอุปสรรคในการทำงานรักษาโรคโควิด-19 เพราะว่าผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงปกปิดข้อมูล ให้ข้อมูลเป็นเท็จ หรือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงอย่างไม่รู้ตัว เพราะคนอื่นปกปิดข้อมูล จึงทำให้แล้วยากต่อการรักษา มีโอกาสเป็น Super Spreader อย่างไม่รู้ตัว และมีโอกาสแพร่เชื้อโควิดใส่บุคคลากรทางการแพทย์เวลามารักษาแอพหมอชนะจึงใช้ระบบติดตามพิกัดของคนที่โหลดแอพมา โดยใช้ระบบ GPS และ Bluetooth รวมถึงการเช็กอินตามสถานที่ต่างๆ ผ่าน QR Code หมอชนะ การลงทะเบียนใช้งานในหมอชนะนั้นเป็นการลงทะเบียนใช้งานแบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous) โดยทางแอพฯ จะไม่มีการขอข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลชื่อ บัตรประชาชนหรือโทรศัพท์ เพียงแค่ต้องการรูปถ่ายหน้าของผู้ใช้งานรูปเดียวในการเข้าใช้งานครั้งแรกเท่านั้น หากผู้ใช้ไปพื้นที่เสี่ยงมาทางแอพฯ ก็จะแจ้งเตือนค่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และถ้าหากผู้ใช้แอพฯ ไปเข้ารับบริการทางการแพทย์ ก็สามารถที่จะแสดงแอพฯ ให้แพทย์ได้ดู เพื่อที่พวกเขาจะสามารถประเมิน วิเคราะห์และสามารถที่จะจัดลำดับการรับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไทยชนะ
ไทยชนะเป็นแอพที่ทุกคนโดนบังคับให้ใช้งาน ไม่ว่าเราจะไปสถานที่ไหนก็จะโดนให้แสกน QR Code ก่อนเข้า ไม่ว่าจะเป็นนร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ฟิตเนส หรือที่อื่นๆ และเช็กเอาท์ตามสถานที่ต่างๆ ที่ได้ไปมา โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บและสามารถที่จะย้อนกลับไปตรวจสอบย้อนหลัง เมื่อพบเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19 และสามารถที่จะแจ้งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงผ่าน SMS หรือทางโทรศัพท์ เพื่อให้ผู้ที่มีความเสี่ยงนั้นสามารถที่จะเข้ารับการตรวจได้ทันทีแล้วสถานการณ์นี้ที่เรากลัวว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่ 2 ไทยชนะ และ หมอชนะ จะช่วยเราจากโควิดระลอก 2 ได้ไหม ทั้ง 2 แอพมีการแจ้งเตือนอย่างไรบ้าง
การแจ้งเตือนของทั้งสองแอพ
หมอชนะ
วันที่ 14 ก.ค.2563 ใครที่เคยลงทะเบียนใช้งานกับแอพ “หมอชนะ” ก่อนวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา (วันเดียวกับที่ทหารอียิปต์คนดังกล่าวไปเดินเล่น) ทางตัวแอพก็จะส่งข้อความแจ้งตือนคนกลุ่มเสี่ยงเหล่านั้น ให้เฝ้าระวัง และสังเกตอาการตัวเองอย่างละเอียดทันที ซึ่งการแจ้งเตือนของ “หมอชนะ” ครั้งนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ แถมยังไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาสแกนตลอดอีกด้วย เพราะตัวแอพ “หมอชนะ” จะเก็บข้อมูล Location Services ของผู้ใช้ผ่าน BLE + GPS ในคืนวันที่ 13 ก.ค. 2563 แอพหมอชนะได้โพสต์ถึงการส่งระบบแจ้งเตือนให้กับผู้ใช้แอพฯ ที่เดินทางไปห้างแหลมทอง จังหวัดระยอง จำนวน 10 คน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับทหารจากอียิปต์ได้เดินทางไปที่ห้างดังกล่าว โดยทางแอพฯ ได้แจ้งเตือนผู้ใช้ทั้ง 10 คนให้สังเกตอาการของตนเองอย่างละเอียด
จำนวนผู้ที่ได้รับการแจ้งเตือน : 10 คน
เวลาแรกที่มีการแจ้งเตือน : คืนวันที่ 13 ก.ค. (01:26 น. ของวันที่ 14 ก.ค.)
ไทยชนะ
เริ่มต้นเร็วกว่า โดย 13 ก.ค.2563 เวลา 19.00 น. กรมควบคุมโรคในฐานะ Data Controller ได้ร้องขอข้อมูลจากระบบไทยชนะ แล้วในเวลา 00.30 น. ได้รับข้อมูลจากกรมควบคุมโรคมาทั้งหมดและนำมาแยกข้อมูลสำหรับผู้ที่อยู่ในห้างฯ ของ จ.ระยองแล้วเสร็จ จากนั้น คัดแยกได้หมายเลขโทรศัพท์ติดตามตัวผู้ที่สแกนไทยชนะทั้งหมดในห้างฯ จำนวน 394 หมายเลข ดำเนินการส่ง SMS ข้อมูลให้กลุ่มเสี่ยงรายงานตัวและติดต่อกลับ สสจ.ระยอง มายังเบอร์มือถือ 086-3032625สรุปแล้วไทยชนะสามารถติดตามพบจำนวนกลุ่มเสี่ยง 394 คน ได้ภายใน 6 ชั่วโมง
จำนวนผู้ที่ได้รับการแจ้งเตือน : 394 คน
เวลาแรกที่มีการแจ้งเตือน : 11:40 น. ของวันที่ 14 ก.ค.
สรุปแล้ว ทั้งหมอชนะ และ ไทยชนะ มีการเก็บข้อมูลที่ต่างกัน หมอชนะเริ่มจากให้ผู้ใช้ลงทะเบียนอย่างไม่เปิดเผยตัว แล้วใช้ GPS ตามติดผู้ใช้ไปทุกที่ ส่วนไทยชนะ ให้ผู้ใช้ลงทะเบียนแบบเปิดเผยตัว (บอกชื่อจริง เลขบัตรประชาชน และอื่นๆ) แต่ไม่มีการตามติดเราตลอดเวลา แต่จะรู้ตำแหน่งการเดินทางของเราก็ต่อเมื่อเราแสกน QR Code เข้าสถานที่ต่างๆ
จากตัวเลขการแจ้งเตือนของทั้ง 2 แอพ จะเห็นได้ว่า แอพไทยชนะมีผู้ได้รับการแจ้งเตือนมากกว่า อาจจะเป็นเพราะเป็นแอพของรัฐบาล แล้วเจ้าหน้าที่พยายามให้ทุกคนใช้แอพนี้ก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ แต่แอพหมอชนะอาจจะไม่เป็นที่รู้จักเท่าไทยชนะ จึงมีตัวเลขผู้ที่ได้รับการแจ้งเตือนน้อยกว่า
ในช่วงนี้ประเทศไทยเราอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง หลังจากการแพร่เชื้อของทหารอียิป 14 วัน ถึงแม้เรายังจะไม่มีการระบาดของโควิดระลอกที่ 2 อย่างเป็นทางการ พวกเราก็ต้องเฝ้าระวังตัวเองติดตามข่าวสารต่างๆ และให้ความร่วมมือในการใช้แอพหมอชนะและไทยชนะ
บางทีอาจจะไม่ต้องเปรียบเทียบว่าแอพไหนดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้ง 2 แอพก็ให้ข้อมูลและแจ้งเตือนเรา เพื่อให้เรารู้ตัวว่าเราได้เข้าสู่พื้นที่เสี่ยงหรือไหม โหลดแอพกันเยอะๆ เพิ่มเกราะป้องกันตัวให้กับสังคมนะ
ที่มา:
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000072161
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-490766
Photo Credit:
Home vector created by freepik - www.freepik.com