8 เทรนด์สุขภาพรับปี 2024
เทรนด์สุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา อย่างปีนี้ก็เป็นปีที่หลังการระบาดของโควิดครั้งใหญ่ได้หมดไปแล้ว พี่เรนนี่เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนมีพฤติกรรม ทัศนคติ เรื่องการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ง่าย ๆ ให้เห็นเลย ทั้งคนรอบตัวพี่เรนนี่ รวมถึงตัวพี่เรนนี่เอง ก็มองการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น
- เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์มากขึ้น
- รักษาสุขอนามัยมากขึ้น
- ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- นอนให้เพียงพอต่อความต้องการ
- มองหาประกันสุขภาพไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ทั้ง 6 ข้อนี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันหากเกิดโรคร้ายแรงและอุบัติเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วย เมื่อพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป ดังนั้นเทรนด์รับสุขภาพปี 2023 ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเช่นกัน พี่เรนนี่ขอพาไปดูเทรนด์ทั้ง 8 ข้อกันเลยจ้าว่ามีเทรนด์ไหนน่าติดตามบ้าง น้อง ๆ ก็เก็บไปเป็นข้อมูลนำไปใช้ในชีวิตประจำวันกันได้เลยนะคะ
1. อาหารเสริมสุขภาพ - วิตามินเม็ด/ Plant-based meat
หลังจากการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 หลายคนเริ่มให้ความสนใจกับการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา โดยให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารการกิน อาหารเสริมสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มผสมวิตามิน ลดการทานเนื้อสัตว์ แต่หันมาทานเนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืชผักแทน หรือที่เขาเรียกกันว่า “Plant-based meat” นั่นเอง เทรนด์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้น หลายคนเชื่อว่าโรคระบาดหลายครั้งที่ผ่านมาเกิดจากการสัมผัสกับสัตว์ป่วย การบริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อ และแพร่กระจายโรคได้
คาดการณ์อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทั่วโลก ปี 2020-2030 (USD Billion)
แน่นอนว่ามูลค่าตลาดอาหารเสริมสุขภาพโดยรวมแล้วมีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี
อัตราส่วนแบ่งประเภทอาหารเสริมปี 2020 (%)
2. การจัดการความเครียด
หลังเผชิญกับสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งโรคระบาด สงคราม เงินเฟ้อ ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเครียดสะสมมากขึ้น ดังนั้นการบริหารจัดการความเครียดด้วยตนเองหรือผ่านสื่อต่าง ๆ ล้วนได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากคนทั่วโลก WFH หรือถ้าไปทำงานก็กลับบ้านเร็วขึ้น จำนวนชั่วโมงการอยู่บ้านก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
อัตราการเกิดโรควิตกกังวลและความเครียดของทั้งเพศชายและหญิง ปี 2023
อัตราการเกิดโรควิตกกังวลในเพศหญิงมีมากกว่าเพศชาย โดยเพศหญิงเป็นโรควิตกกังวลมากถึง 65% ส่วนเพศชายเป็นโรควิตกกังวล 53% และ…อัตราการเกิดโรคเครียดในเพศหญิงมีมากกว่าเพศชาย โดยเพศหญิงเป็นโรคเครียดมากถึง 60% ส่วนเพศชายเป็นโรคเครียด 50%
สาเหตุของการเกิดโรควิตกกังวลและโรคเครียด ปี 2022-2023
พบว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก
1. งานหนักเกินไป
2. ขาดการควบคุมอารมณ์
3. ขาดการสนับสนุนจากคนรอบข้าง
4. ความกดดันจากพนักงานรุ่นพี่
5. พนักงานในระดับเดียวกัน/คู่แข่ง อื่น ๆ
6. ความปลอดภัยของอาชีพ
7. ขาดการฝึกทักษะอาชีพ
8. การสื่อสาร
9. Work from home
10. การโดน Bully
3. Well-being with Digital Health สื่อดิจิทัลด้านสุขภาพ
มีการใช้สื่อ Digital มาช่วยให้ชีวิตมีคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น อุปกรณ์สำหรับวัดการนอนหลับ นาฬิกาดิจิทัล (Smart Watch) เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิทัล แอปพลิเคชันด้านสุขภาพต่าง ๆ ทำให้เราสามารถพบแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น วัดค่าต่าง ๆ ด้านสุขภาพทำให้เรารู้ว่าร่างกายตอนนี้เป็นอย่างไร มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบื้องต้นอะไรบ้าง เป็นต้น
คาดการณ์รายรับตลาดสินค้าและบริการ Digital Fitness & Well-Being ปี 2017-2027
4. อาหารเพื่อสุขภาพ
ถือว่าเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในปัจจุบัน เนื่องจากคนทั่วโลกมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เพื่อหุ่นที่ดี ไม่ว่าพี่เรนนี่จะเดินไปทานอาหารห้างไหน หลายร้านอาหารมีแนวโน้มให้บริการเป็นแนววีแกนมากขึ้น เน้นการทานผักเป็นส่วนประกอบอาหารเพิ่มมากขึ้น เช่น อาหารลีน อาหารที่จำกัดแคลลอรี่ อกไก่ปั่น เวย์โปรตีน สลัด น้ำผสมวิตามิน และอื่น ๆ เป็นต้น5. เทคโนโลยีรักษาล้ำสมัย
สมัยก่อนจะรักษาแผลร้ายแรงต่าง ๆ ก็ต้องผ่าตัด แต่สมัยใหม่เราไม่จำเป็นต้องผ่าให้เจ็บปวดขนาดนั้นแล้ว ซึ่งการรักษาที่พูดถึงก็คือ เลเซอร์ที่ทำให้ไม่เจ็บหรือเจ็บน้อย ทำได้รวดเร็ว ง่าย สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้แผลฟื้นตัวเร็วกว่าเดิม แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าก็ตาม แต่เมื่อคำนวณโดยรวมแล้ว จำนวนวันรักษาตัวน้อยกว่า ทำให้กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น ถือว่าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนมีงบ
มูลค่าตลาด Non-invasive Aesthetic Treatment Market ปี 2020-2030
6. ออกกำลังนอกบ้านกลับมาอีกครั้ง
ปี 2023 หลายคนเริ่มกลับไปออกกำลังกายนอกสถานที่มากขึ้น บางคนที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน อาจเกิดอาการออฟฟิศซินโดรมต่าง ๆ ได้ เช่น ตาเมื่อยล้า ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ และระบบการทำงานร่างกายผิดปกติ รู้สึกเบื่อที่นั่งทำงานนาน ๆ การออกไปข้างนอกออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย สูดอากาศบริสุทธิ์ จึงเกิดเป็นเทรนด์ Outdoor Exercise มากขึ้น
7. Work Life Balance บริหารงานและชีวิตให้เท่ากัน
เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรง ที่หลายคนต้องการบริหารงานและการบริหารชีวิตไปพร้อม ๆ กันให้สมดุล ทำงานอย่างเต็มที่ควบคู่ไปกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
อัตราการให้ความสำคัญของพนักงานสหรัฐฯ ต่อแนวคิด Work-life Balance ปี 2023
8. สุขภาพจิตใครว่าไม่สำคัญ!
การพบจิตแพทย์หรือขอคำปรึกษาในปัจจุบันทำได้สะดวกมากขึ้น แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อคลายความเครียด ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก ๆ
อัตราการแบ่งประเภทการใช้แอปพลิเคชันเกี่ยวกับสุขภาพจิตทั่วโลก ปี 2022
จากทั้ง 8 เทรนด์ที่ก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลรับปี 2024 เห็นเลยว่า คนทั่วโลกได้ให้ความสำคัญทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ควบคู่กันไป ด้วยการใช้แอปหรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้นเข้ามาจัดการดูแลรักษาสุขภาพเบื้องต้นกันก่อน อีกทั้งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างการ Work from home แนวคิดของ Work-life balance ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจสุขภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามพี่เรนนี่ก็ขอฝากทั้ง 8 เทรนด์นี้ เผื่อน้อง ๆ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้นกันนะคะ
ที่มา :
https://www.precedenceresearch.com/nutritional-supplements-market
https://championhealth.co.uk/insights/mental-health-statistics/
https://www.statista.com/outlook/dmo/digital-health/worldwide
https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/non-invasive-aesthetic-treatment-market
https://www.zippia.com/advice/work-life-balance-statistics/
https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/mental-health-apps-market-report