รักษามะเร็งเต้านมอุ่นใจแบบ Happy Lady

โดยประกันสุขภาพ  Happy Lady ของเมืองไทยประกัน เป็นประกันที่เน้นไปที่การคุ้มครองความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยร้ายแรงสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องทำเพิ่มจากประกันชีวิตหลักโดยจะชำระเบี้ย 10 ปีและคุ้มครอง 10 ปีในช่วงเวลาเดียวกัน ทำได้ตั้งแต่อายุ 18-50 ปี (ต่ออายุได้ถึงอายุ 64 ปี) 

จุดเด่นประกันสุขภาพผู้หญิง Happy Lady เมืองไทยประกันชีวิต

• เบี้ยประกันไม่แพง ราคาหลักร้อยต่อเดือน
• คุ้มครองโรคร้ายแรงยอดฮิตที่เกิดกับผู้หญิง ทั้งมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม จ่ายเต็มจำนวนสูงสุด 1,000,000 บาท
• คุ้มครองการผ่าตัดมดลูกและเต้านม สูงสุดกรณีละ 300,000 บาท
• คุ้มครองการศัลยกรรมใบหน้ากรณีไฟลวก และการผ่าตัดเสริมแต่งทรวงอกหากต้องผ่าตัดเต้านม สูงสุด 1,000,000 บาท
• ในกรณีเลือกประกันแบบ Happy Lady Plus จะได้ความคุ้มครองความเสี่ยงจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตร สูงสุดรวมกัน 600,000 บาท (ทำได้ตั้งแต่อายุ 18-40 ปี และต่ออายุได้ถึงอายุ 44 ปี)

เบี้ยถูกและดูน่าสนใจแบบนี้ เรามาดูกันดีกว่าลูกค้าที่ใช้ประกัน Happy Lady จริงจะปลื้มแค่ไหน จากบทสัมภาษณ์โดยทีมงานรีวิวประกัน กับคุณอุ้ม หัวหน้าฝ่ายบัญชีในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในวัย 34 ปี ที่เป็นผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นกันได้เลยค่ะ


Q: อยากให้เล่าประสบการณ์การเป็นมะเร็งเต้านมให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ?

A: คือพี่เองก็ยังเป็นสาวโสดไม่ได้มีครอบครัว อาศัยอยู่กับแม่กันสองคน ไม่ได้คิดเลยว่าเราจะมาเป็นโรคอะไรแบบนี้เพราะก็แข็งแรงมาตลอด จนมีวันนึงเมื่อปีที่แล้วที่คลำเจอก้อนเล็กๆอยู่ใต้ราวนมฝั่งขวามือ กดก็เจ็บ ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ปกติเลยไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณหมอก็ทำเมมโมแกรมตรวจหาความผิดปกติ ตอนคุณหมอบอกว่าเราอาจเป็นมะเร็งเต้านมและต้องผ่าตัดก็ใจหายเหมือนกันค่ะ กลัวถ้าเราไม่อยู่ แล้วใครจะดูแลแม่

แต่พอตั้งสติได้ ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยทำประกัน Happy Lady กับทางไทยประกันชีวิตเผื่อเอาไว้ ขั้นตอนการรักษาที่คุณหมอแนะนำก็จะต้องทำการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ เสร็จแล้วเมื่อทราบผลแน่นอนว่าเป็นเนื้อร้าย ก็จะเริ่มทำคีโมประมาณ 4-6 อาทิตย์ ทรมานแต่พี่ก็สู้นะ ทนจนสุดท้ายมันหายก็โล่งมาก พี่รักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ค่ารักษาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ ตกหลักล้าน แต่ว่ามีทั้งประกัน Happy Lady และประกันกลุ่มของบริษัทที่ก็ช่วยกันจ่ายคุ้มครองให้ ก็รู้สึกว่าโชคดีมาก ๆ ที่ทำประกันตัวนี้ไว้


Q: ทำไมถึงคิดอยากจะทำประกันสุขภาพสำหรับผู้หญิงแยกออกมาในตอนแรก?

A: จริง ๆ ตอนแรกไม่ได้คิดเลยว่าต้องมาป่วยหนักขนาดนี้ แต่แค่รู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิง ความเสี่ยงจะเป็นโรคมะเร็งที่เกี่ยวกับผู้หญิงก็ดูจะมีมากกว่าโรคอื่น ๆ และผู้ใหญ่รอบข้างที่เรานับถือ ท่านก็ป่วยด้วยโรคแบบนี้กันมาก ก็เริ่มสังเกตเห็นแล้วว่ามันมีแพตเทิร์นโรคบางอย่างที่เกิดบ่อยในผู้หญิงไทย ก็เริ่มคิดว่า ถ้าทำประกันที่คุ้มครองเจาะจงไปเรื่องผู้หญิง ๆ เลย น่าจะลดความเสี่ยงแบบตรงจุดได้มากกว่า

และแม้ว่าตอนนั้นจะอยากลองทำประกันสุขภาพสำหรับผู้หญิง แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าควรจะต้องทุ่มลงทุนกับเรื่องนี้มากแค่ไหนเพราะพี่เองก็ต้องดูแลแม่เป็นหลัก บวกจริง ๆ ก็มีประกันสุขภาพจากที่ทำงานคุ้มครองอยู่แล้ว ก็เลยตั้งใจว่าจะเลือกประกันตัวที่ไม่แพงมากแต่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายตรงจุด ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อประกันมะเร็งที่ครอบคลุมการรักษามะเร็งทุกแบบไปเลย


Q: ประกันสำหรับผู้หญิงมีหลากหลายแบรนด์ มีวิธีเลือกยังไง ทำไมถึงเลือก Happy Lady?

A: พี่เลือกจากประกันตัวที่คุ้มครองโรคร้ายแรงเกี่ยวกับผู้หญิงมากที่สุด และคุ้มครองในวงเงินคุ้มค่าที่สุด พอลองเปรียบเทียบประกันหลายๆแบบก็เหลือช้อยส์อยู่ 2 ตัวระหว่าง Happy Lady กับ Lady Care ของ AIA ที่เบี้ยถูกกว่าครึ่งนึงแต่คุ้มครองสูงสุดเท่ากัน แต่พอลองมาดูในรายละเอียดแล้ว ประกัน Happy Lady คุ้มครองเต็มที่มากกว่าในเรื่องของค่าผ่าตัดและค่าศัลยกรรม เลยรู้สึกว่าคุ้มค่ากว่า ก็เลยเลือกซื้อแบบแผน 5 ที่สูงสุดไปเลยค่ะ


Q: เลือกแผนสูงสุดเลยหรอคะ ทำไมถึงเลือกแบบนั้น?

A: เพราะแอบรู้สึกว่าประกัน Happy Lady ในแผนที่ต่ำกว่านั้น ถึงเบี้ยจะถูกมาก ๆ ก็จริง แต่วงเงินคุ้มครองน้อยจนรู้สึกว่าเหมือนไม่ได้ทำน่ะค่ะ ถ้าจ่ายไหวก็จ่ายดีกว่า มันไม่ได้แพงขนาดนั้น


Q: คิดว่าประกันตัวนี้ ชอบจุดเด่นตรงไหนมากที่สุด?

A: ชอบตรงที่ค่าเบี้ยไม่แพง แต่คุ้มครองสมเหตุสมผลค่ะโดยวงเงินสูงสุดที่ 1 ล้านบาทก็ถือว่าคุ้มค่า


Q: แล้วในประกันตัวนี้ ยังมีส่วนที่กังวลอยู่บ้างมั้ยคะ?

A: จริง ๆ ตอนที่เลือกซื้อประกันตัวนี้ก็ไม่ได้เอะใจนะคะ แต่พอซื้อมาแล้วและอายุเริ่มมากขึ้น ถึงได้รู้สึกว่า ประกัน Happy Lady คุ้มครองถึงแค่อายุ 50 ปี ต่ออายุได้ถึงช่วงหลังเกษียณนิดหน่อย ระยะเวลาคุ้มครองก็แค่ 10 ปี ถือว่าสั้นมาก ๆ ยิ่งอายุมากจริง ๆ ยิ่งเสี่ยงเป็นโรคเหล่านี้ยิ่งกว่า ถ้าหากหมดประกันช่วงที่เกษียณที่ประกันกลุ่มของบริษัทไม่คุ้มครองแล้วก็น่าจะลำบาก คงต้องหาประกันตัวอื่นมาเสริมสำหรับหลังเกษียณเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ พี่อยากแนะนำว่าก่อนที่จะซื้อประกันตัวนี้ ให้ลองคำนวณค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นจริงดูก่อน ดูระดับโรงพยาบาลที่เราจะรักษา ว่าจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ในวงเงินประกันรึเปล่า เพราะถ้าหากมีใครที่เลือกรักษาโรงพยาบาลเอกชนที่ราคาค่อนข้างแพงถึงหลักล้าน ก็มีความเสี่ยงที่ประกันตัวนี้จะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่ะ ส่วนของพี่โชคดีที่มีประกันจากทางบริษัทเข้ามาช่วยเสริม ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายเบาลงไปได้ แต่ถ้าให้พึ่งประกัน Happy Lady ตัวนี้ตัวเดียวในการรักษา ก็อาจต้องเตรียมตัวควักเงินจ่ายเองในบางส่วนด้วยค่ะ

ทางเว็บไซต์รีวิวประกัน ขอขอบคุณคุณอุ้มที่มาเล่าประสบการณ์การเลือกซื้อประกัน Happy Lady จากเมืองไทยประกันชีวิตให้พวกเราได้ฟังกันด้วยนะคะ ทางทีมงานหวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพสำหรับผู้หญิงทุกคนด้วย และหากคุณอยากอ่านรีวิวประกันดี ๆ ตัวอื่น ๆจากลูกค้าที่ใช้จริง ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ที่เว็บไซต์ของเราได้เลยนะคะ