remove_red_eye401 Views

เคล็ดลับดูแลสุขภาพตามกรุ๊ปเลือด A B AB O

โพสต์วันที่ 24/11/2023

เคล็ดลับดูแลสุขภาพตามกรุ๊ปเลือด A B AB O


การเลือกดูแลสุขภาพของแต่ละคนนั้นมีวิธีที่แตกต่างกันไป ตามทัศนคติ แนวคิด และแนวปฎิบัติแต่ละศาสตร์ที่น้อง ๆ หลายคนอาจจะมีวิธีการดูแลสุขภาพของตัวเอง วันนี้พี่เรนนี่เลยมาบอกต่อ “การดูแลสุขภาพ” ตามฉบับของแต่ละชาวกรุ๊ปเลือดกัน

มาแบ่งกรุ๊ปเลือดกันก่อนว่า น้อง ๆ แต่ละคนมีกรุ๊ปเลือดอะไรบ้าง ?

กรุ๊ปเลือดของคนเรานั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ กรุ๊ป A, B , AB และ O โดยที่กรุ๊ปเลือดของลูกนั้นจะได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่โดยตรงนั่นเอง ส่วนใหญ่น้อง ๆ ต้องรู้อยู่แล้วจากการตรวจสุขภาพจากการเจาะเลือดไปตรวจในทุก ๆ ปี

โรคประจำตัวของแต่ละกรุ๊ปเลือด มีอะไรบ้าง ?

1. ภาวะเส้นเลือดขอด : ความเสี่ยงต่อกรุ๊ปเลือด AB, A, B
กรุ๊ปเลือด AB, A, B มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เมื่อลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นอาจหลุดไปตามกระแสเลือดและเข้าสู่ปอด ซึ่งทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
จากการศึกษาของคณะแพทย์จากโรงพยาบาล Herlev ในกรุงโคเปนเฮเกน ที่ได้ติดตามศึกษาผู้ร่วมการทดลองจำนวน 60,001 คน เป็นเวลานานถึง 33 ปี พบว่าปัจจัยที่จะเกิดภาวะเส้นเลือดขอดมากที่สุดคือกรุ๊ปเลือด โดยค่าความเสี่ยงอยู่ที่ 20% ทั้งนี้ ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB, A และ B จะมีความเสี่ยงมากกว่าเลือดกรุ๊ป O

ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แแก่ การเปลี่ยนแปลงของยีน 11%, น้ำหนักตัวมาก 16% และสูบบุหรี่ 6%

2. โรคหัวใจ  : ความเสี่ยงต่อกรุ๊ปเลือด AB, B, A
กรุ๊ปเลือด AB, B, A มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น นักวิจัยจาก Harvard School of Public Health ได้ทำการศึกษากับกลุ่มผู้ป่วยอายุระหว่าง 30-75 ปี จำนวนมากกว่า 17,000 ราย เป็นเวลาถึง 20 ปี
และได้พบว่าผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป AB มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมากถึง 23% เมื่อเทียบกับผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด O จากนั้นความเสี่ยงลดหลั่นลงมาเป็น 11% และ 5% ในผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป B และ A ตามลำดับ 

นั่นหมายความว่าผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยที่สุดในบรรดากรุ๊ปเลือดทั้งหมด

ทั้งนี้ นักวิจัยเองยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่แน่ชัดได้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แต่มีข้อบ่งชี้บางประการที่ระบุว่า กรุ๊ปเลือดชนิด AB มีความเกี่ยวพันกับคลอเรสเตอรอลชนิด LDL หรือไขมันเลว ในขณะที่กรุ๊ปเลือด O กลับน่าจะมีสารเคมีที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดการอุดตันในเส้นเลือดได้

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มีอิทธิพลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจที่สำคัญกว่าก็คือ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเอง เช่น น้ำหนักตัว การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งอิทธิพลถึงความเสี่ยงของโรคมากกว่ากรุ๊ปเลือดหลายเท่า

3. โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร : ความเสี่ยงต่อกรุ๊ปเลือด A
กรุ๊ปเลือด A มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จากการศึกษาเมื่อปี 2010 ของสถาบัน Karolinska ในประเทศสวีเดน พบว่า ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป A มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 20% เมื่อเทียบกับผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด O และ B

แต่ในการศึกษาครั้งเดียวกันนี้ พบว่าผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O กลับมีความเสี่ยงกับการเป็นแผลในกระเพาะอาหารมากกว่า ทั้งยังเกิดอาการปวดท้องได้มากกว่า เพราะไวต่อเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ที่ก่อให้เกิดโรคกระเพาะอาหารมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ นั่นเอง

4. ภาวะมีบุตรยาก : ความเสี่ยงต่อกรุ๊ปเลือด O
กรุ๊ปเลือด O มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ผู้หญิงที่มีเลือดกรุ๊ป O มีโอกาสประสบภาวะมีบุตรยากมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ ถึง 2 เท่า เนื่องจากมีการผลิตฮอร์โมน FSH ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการตกไข่อยู่สูง

ทั้งนี้การมีฮอร์โมน FSH อยู่มากกลับทำให้ภาวะเจริญพันธุ์ลดลง โอกาสมีบุตรจึงน้อยลงไปด้วย แม้จะไม่มีคำอธิบายแน่ชัด แต่ผู้หญิงที่มีเลือดกรุ๊ป O ก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เพราะเมื่อเทียบกับปัจจัยอย่างอายุ และความแข็งแรงของร่างกายแล้ว ก็นับว่าเรื่องกรุ๊ปเลือดส่งผลต่อการมีบุตรน้อยมากเลยทีเดียว

ดังนั้นแล้วความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากหรือน้อยของแต่ละโรคนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นตามกรุ๊ปเลือดตามงานวิจัยดังกล่าว เมื่อรู้ดังนั้นแล้วพี่เรนนี่เลยขอแนะนำการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ตามแต่ละกรุ๊ปเลือดว่าควรดูแลอย่างไรดีถึงจะเหมาะสม ไปติดตามได้เลยค่ะ


ส่องเคล็ดลับการทานอาหารตามเทรนด์ของแต่ละกรุ๊ปเลือด A, B, AB และ O

จากงานเขียนของ Dr.PererJ.D’Adammo แพทย์ทางเลือกจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเทรนด์การทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้น ส่งผลต่อสุขภาพที่แตกต่างกัน เชื่อว่า อาหารที่เรากินมีโปรตีน “เลคติน” ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับกรุ๊ปเลือดจนทำให้เกิดผลเสีย หรือ ทำให้ภูมิคุ้มกันตกถ้ารับประทานอาหารไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของตัวเอง

เลือดกรุ๊ป A : ย่อยเนื้อสัตว์ไม่ค่อยดี เน้นทานผัก ผลไม้
คนที่มีเลือดกลุ่มนี้จะย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไม่ค่อยดีนัก
แนะนำให้รับประทานเนื้อปลา เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลากระพง
แนะนำให้รับประทานประเภทนมถั่วเหลืองแทนนมวัว

กรุ๊ปเลือด A ทานผักได้แทบทุกชนิด
ผลไม้ที่อยากให้หลีกเลี่ยง คือ ส้ม มะละกอ เพราะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
เครื่องดื่มสำหรับคนเลือดกรุ๊ปเอ ที่ติดกาแฟ ทฤษฎีนี้ระบุว่าเพียงวันละหนึ่งแก้วก็เพียงพอ เพื่อช่วยเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร

เลือดกรุ๊ป B : อยู่ง่าย กินง่าย รับประทานอะไรก็ได้
รับประทานเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย เช่น ไก่ ปลา ปลาแซลมอน ปลาเนื้อขาว กุ้ง ปู ส่วนนม เนย และไข่
แนะนำให้รับประทานข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และหลีกเลี่ยงแป้งสาลี แป้งโฮลวีท และถั่วลิสง เพราะไม่ดีต่อระบบเผาผลาญ ทำให้อ้วนง่าย
แนะนำกลุ่มผักใบเขียวเพราะมีแมกนีเซียมสูง ช่วยป้องกันอาการผื่นคันและภูมิแพ้ได้
ผลไม้กินได้แทบทุกชนิด แต่ก็ควรเลี่ยงผลไม้รสหวาน หรือรับประทานให้น้อยลง

เลือดกรุ๊ป O : กระเพาะอาหารเป็นกรดสูง เผาผลาญไม่ค่อยดี
กระเพาะอาหารมีความเป็นกรดสูง ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี จึงหิวง่าย และอ้วนง่าย
แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันไม่สูง เช่น เนื้อปลา กุ้ง ปู มากกว่าเนื้อหมู
ผักที่เป็นประโยชน์ต่อหมู่เลือดนี้ คือ ผักบร็อคโคลี่ ผักกาดคอส ผักคะน้า หอมหัวใหญ่ และสาหร่ายทะเล
ผลไม้สามารถรับประทานผลไม้ได้ทุกชนิดโดยเฉพาะตระกูลเบอร์รี่ ที่จะช่วยสร้างสมดุลให้ระดับกรดในกระเพาะอาหารได้
ด้านเครื่องดื่ม ควรเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ เบียร์ เพราะจะไปเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะ

เลือดกรุ๊ป AB : สลับวัน…เน้นเนื้อ เน้นผัก
กรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด A กับ B วิธีรับประทานอาหารที่เหมาะสมระบุไว้ว่าสามารถรับประทานแบบลูกผสม เช่น วันนี้จะเน้นเนื้อ วันนี้จะเน้นผักสลับกันไปมาได้
แนะนำอยากให้รับประทานเนื้อสัตว์แต่พอประมาณ ถ้าเป็นเนื้อปลาก็ยิ่งดีต่อร่างกาย อาจเลือกรับประทานอาหารประเภทถั่วเพิ่มก็ได้ เช่น ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ก็มีประโยชน์ช่วยให้โปรตีนต่อร่างกายเช่นกัน
แนะนำให้รับประทานผักสดโดยเลือกเมนูเป็นน้ำพริกผัก หรือสลัดก็ได้ ด้านผลไม้ ควรทานผลไม้ที่วิตามินซีสูง เช่น ส้มโอ ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ 
เครื่องดื่มชา กาแฟ ดื่มได้พอประมาณ แนะนำให้ดื่มชาคาโมมายล์ และชาเขียว เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน

ส่องเคล็ดลับการออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด A, B, AB และ O


กรุ๊ปเลือดแต่ละประเภท จะมีความแตกต่างกันทางโครงสร้างบางประการ จึงทำปฏิกิริยากับร่างกายที่แตกต่างกันออกไป หากพูดถึงการออกกำลังกายก็เช่นเดียวกัน การเลือกออกกำลังกายที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดของเราก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพและความแข็งแรงของร่างกายได้มากขึ้นด้วย

กรุ๊ปเลือด A : กีฬาเบา ๆ
กรุ๊ปเลือด A นั้น หากออกกำลังกายแรง ๆ ก็จะเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอล (Hormone Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียด ดังนั้น การออกกำลังกายที่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ป A จึงควรเป็นกีฬาที่ไม่ต้องออกแรงมาก เช่น พิลาทิส (Pilates) โยคะ รำไทเก๊ก การเดิน การออกกำลังกายที่ไม่เน้นการเคลื่อนไหวมาก แต่เน้นการเกร็งกล้ามเนื้อ

กรุ๊ปเลือด B : กีฬาเบา หรือแรงก็ได้
เหมาะกับการออกกำลังกายเน้นสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ ดังนั้น การออกกำลังกายสำหรับคนกรุ๊ป B จึงสามารถที่จะเลือกออกกำลังกายได้ทั้งการออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น โยคะ รำไทเก๊ก หรือการออกกำลังกาย ที่ต้องใช้แรงมากๆ เช่น คาร์ดิโอ ยกเวต ปั่นจักรยาน ตีเทนนิส ว่ายน้ำ เป็นต้น

กรุ๊ปเลือด AB : กีฬาเบา หรือแรงก็ได้
สามารถเลือก ออกกำลังกาย ตามแบบคนกรุ๊ปเลือด A หรือกรุ๊ป B ก็ได้เช่นกัน

กรุ๊ปเลือด O : กีฬาแรง ๆ
ควรออกกำลังกายสำหรับสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างเข้มข้น หรือมีการใช้แรงมาก เช่น แอโรบิค ยกเวต ชกมวย ปั่นจักรยาน เป็นต้น

พี่เรนนี่เลยมาบอกต่อประกันสุขภาพโดน ๆ ZYNDROMES ที่ดูแลสุขภาพได้ทั่วถึงทุกกรุ๊ปเลือด อย่างที่กล่าวไปข้างต้นกรุ๊ปเลือดแต่ละกรุ๊ปก็มีโอกาสเกิดโรคตามความเสี่ยงมากน้อยที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น โรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เป็นต้น ประกันสุขภาพ ZYNDROMES ก็ครอบคลุมการรักษาโรคร้ายต่าง ๆ เช่นกัน

โปรโมชั่น D Health เบาใจ และแผนประกัน D Health เบาตังค์​ Plus รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ เมื่อชอปผ่าน “MTL Virtual World” หรือคลิกเข้ารับชมโลกเสมือนจริงได้ที่ https://v-avenue.co ที่ทาง MTL ได้ร่วมมือกับ AIS สร้างโลกเสมือนจริง “V-AVENUE” มาให้น้อง ๆ ได้ลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
 

 



โปรโมชั่น D Health เบาใจ และแผนประกัน D Health เบาตังค์​ Plus รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ 

ต่อที่ 1 รับ Voucher สูงสุด 5,000 บาท 
ต่อที่ 2 รับ Voucher On Top 1,000 บาท (สนับสนุนโดย AIS) สำหรับ 250 กรมธรรม์แรก

ถึงอายุจะน้อยก็ป่วยได้ ต้องวางแผนรับมือเรื่องสุขภาพด้วย ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) จากเมืองไทยประกันชีวิต ความคุ้มครองสุขภาพของคน Gen ใหม่ เบี้ยไม่แพงแต่ดูแลคุ้มมม…เหมาจ่ายค่าห้องค่ารักษา 5 ล้านบาท คุ้มครองโรคร้าย โรคทั่วไป  และอุบัติเหตุ ครอบคลุมทั้งค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน ค่าห้อง ไอ.ซี.ยู ค่าหมอ ค่ายา ค่าตรวจ ค่าผ่าตัด ค่ากายภาพบำบัด ผ่าตัดเล็กใหญ่ หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องนอนก็คุ้มครอง ดูแลกันยาว ๆ ถึงอายุ 99 ปี สมัครได้ตั้งแต่อายุ 11-90 ปี

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.muangthai.co.th/th/health-insurance/d-health-plus?utm_source=google&utm_medium=pa-cv-sem-HealthBraProadtext1-DHealthPSEMAWO-DHealthPlus-pid10112-20220701&utm_campaign=pipe26cc21&gad=1&gclid=Cj0KCQjw2qKmBhCfARIsAFy8buLCEy-YWVlcN1U5Qccu67nZ8p0OZs8Smf-ciec7GdqOAP8JKNFcv6caAq9mEALw_wcB&gclsrc=aw.ds


Source:

  • https://www.paolohospital.com/th-TH/center/Article/Details/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5

  • https://www.hospital.tu.ac.th/bloodbanktu/blog/blog-05/

  • https://www.hospital.tu.ac.th/bloodbanktu/blog/blog-07/

เกี่ยวกับผู้เขียน
พี่เรนนี่
สาวโสดสุดเฉี่ยววัย 38 ปี ผู้เป็นตัวแทนของสาวยุคใหม่ที่พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง Work hard play harder จบปริญญาโทสาขาคณิตศาสตร์ประกันภัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของต่างประเทศ และทำงานสายประกันมานานจนใครๆก็ต่างยกให้พี่เรนนี่ เป็นกูเกิ้ลสำหรับประกันไปเลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

#ภัยร้ายทำลายสุขภาพ
#health insurance
#health
#กรุ๊ปเลือด
#สุขภาพ
#สุขภาพ
แนะนำสำหรับคุณ

ประกันที่ใกล้เคียง

เมืองไทยประกันชีวิต
ประกันสุขภาพ
ชื่อแผน: D Health Plus (ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ)

฿23,677

เบี้ยเริ่มต้น/ปี
3.9 (0)
remove_red_eye22.9K Views
ค่าห้อง
จ่ายตามจริง
ผู้ป่วยใน
1,000,000 บาท
ผู้ป่วยนอก
ไม่คุ้มครอง
ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ
0 บาท
คุ้มครองอุบัติเหตุแบบผู้ป่วยนอก
ไม่คุ้มครอง
Loading...
Loading...
Loading...
รอสักครู่